จงใจเตะตัดขา? คณะก้าวหน้า แจงกกต.คดีเลียนแบบพรรคการเมือง กลางศึกเลือกตั้ง อบต.

แกนนำ “คณะก้าวหน้า” แจง กกต.คดีเลียนแบบพรรคการเมือง – ตั้งข้อสังเกตคดีมาพร้อมเลือกตั้ง อบต.จงใจใช้ กม.เตะตัดขาหรือไม่?

วันที่ 12 ตุลาคม 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ แกนนำคณะก้าวหน้าประกอบด้วย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจประธานคณะก้าวหน้า, ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, และเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมให้การต่ออนุกรรมการสอบสวนของ กกต. กรณีที่ศรีสุวรรณ จรรยา เป็นผู้ร้องกล่าวหาแกนนำคณะก้าวหน้า ว่ามีความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 111 ดำเนินกิจกรรมคล้ายพรรคการเมือง
.
ต่อกรณีนี้ ปิยบุตรระบุว่ากระบวนการขั้นตอนในวันนี้ เป็นการเรียกชี้แจงครั้งแรก เบื้องต้นต้องดูว่าทางผู้ร้องได้กล่าวหาพวกเราไว้อย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทุกคนได้พิจารณากัน ว่าตั้งแต่เราเป็นพรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงวันที่พรรคถูกยุบและพวกตนถูกตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง มีคดีความมากมายเกิดขึ้นกับพวกเราเต็มไปหมด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือหลายคดีมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้กับการเลือกตั้ง อย่างในคดีนี้ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า คล้ายกับตอนคณะก้าวหน้าสนับสนุนผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในลักษณะนี้เข้ามาเช่นกัน
.
ปิยบุตรกล่าวต่อว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นตามกฎหมายไม่ได้บังคับว่าผู้สมัครต้องสังกัดพรรค การเลือกตั้งท้องถิ่นคือความเป็นอิสระ บางพื้นที่มีการส่งในนามกลุ่มอย่างต่อเนื่องหลายสมัย ไม่เคยมีปัญหาเป็นคดีความอะไร เหตุใดจึงมีแต่คณะก้าวหน้าที่ถูกร้องเรียนว่าทำตัวเสมือนพรรคการเมือง แล้วเรื่องอะไรที่นักร้องคนเดิมจะต้องเจาะจงร้องเรียนแต่พวกเรา

“ผมอยากชวนให้พวกเราคิดกันว่าในท้ายที่สุด การร้องแบบนี้ร้องเพื่ออะไรกันแน่ คน ๆ นี้ร้องมากี่เรื่อง สำเร็จไปกี่เรื่อง ร้องไปเพื่ออะไร มีเหตุผลเบื้องหลังเพื่อสกัดพวกเราใช่หรือไม่ คนบางกลุ่มในประเทศนี้จะกลัวอะไรพวกเรานักหนา ตั้งแต่วันที่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงวันที่ยุบพรรคตัดสิทธิเราไปแล้ว ถ้าจะทำแบบนี้ทำไมไม่เอาให้ชัดไปเลย ว่าต้องการจะลบชื่อพวกเราออกไปจากแผ่นดินนี้ถึงจะพอใจ แล้วแค่นี้ยังไม่เลิก มีคดีความอีกเต็มไปหมด ตกลงประเทศนี้จะอยู่กับแบบนี้หรือ? ใครคิดไม่ตรงกับผู้มีอำนาจ ได้รับความนิยม เป็นความหวังให้ประชาชน คนมีอำนาจจะต้องเตะขัดขาทุกครั้ง ตกลงว่าประเทศนี้เป็นของพวกคุณเท่านั้น ไม่ใช่ของคนไทยทุกคนหรือ?” ปิยบุตรกล่าว
.
ปิยบุตรยังกล่าวทิ้งท้ายต่อ ว่าทั้งนี้ ตนอยากให้ผู้สนับสนุนคณะก้าวหน้าและผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบต.ทุกคนไม่ต้องกังวล เพราะนี่คือคดีที่ฟ้องทางอาญาต่อเฉพาะแกนนำคณะก้าวหน้าเท่านั้น ไม่กระทบถึงผู้สนับสนุน หรือจะทำให้ผู้สมัครต้องได้รับใบเหลือง-ใบแดง อย่างที่มีความพยายามสร้างข่าวปล่อยในพื้นที่การเลือกตั้งมาตั้งแต่ครั้งเลือกตั้งนายก อบจ. จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้
.
ด้านธนาธร ระบุว่าในสัปดาห์หน้า เราจะมีการแถลงข่าวผลการบริหารงานท้องถิ่นในระดับเทศบาลที่คณะก้าวหน้าได้ให้การสนับสนุน ที่ผ่านมาพวกเราทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำประปา การท่องเที่ยวชุมชน สวนสาธารณะ การรักษาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ และการทำงานที่หนักแน่นของพวกเราได้ทำประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่เทศบาลที่พวกเราสนับสนุน
.
สำหรับการเลือกตั้ง อบต. ที่จะมาถึงในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ เป็นการเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุด อบต. ทั่วประเทศมีหลายพันแห่ง และเราอยากให้ประชาชนได้ร่วมกันตระหนัก ว่าองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอย่าง อบต.มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนมาก มีความใกล้ชิดกับประชาชนมาก และหนึ่งเสียงของทุกคนเปลี่ยนบ้านของตัวเองได้
.
“ส่วนเรื่องของคดีความที่มาเกิดตอนนี้ ผมมีข้อสังเกตว่าเวลาที่จะมีการเลือกตั้งทีไร ก็จะมีคดีเหล่านี้มากวนใจพวกเราทุกครั้ง จนเกิดคำถามขึ้นว่าการเกิดขึ้นของคดีเหล่านี้มีความประสงค์อย่างอื่น ที่จะทำให้ผู้สนับสนุนของเราหวั่นไหวหรือไม่ แต่ผมก็ขอยืนยันว่าการทำงานของเรามีจุดประสงค์และเจตนาที่ดีต่อประเทศชาติ การเมืองท้องถิ่นสำคัญกับประชาชนมาก เราเชื่อในศักยภาพของประเทศและคนที่อยู่ในท้องถิ่นทั่วประเทศ ว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะทำให้ประเทศไทยดีกว่านี้ได้ นี่คือสิ่งที่พวกเราอยากจะทำให้เห็น ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้ทุกคนมีความหวัง เห็นว่าประชาธิปไตยมีความหมายและสร้างชีวิตที่ดีกว่าได้ นี่คือแรงบันดาลใจของผมและพวกเราคณะก้าวหน้า และไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมายแน่ ๆ แต่ถ้าผู้มีอำนาจจะทำให้ผิดให้ได้ ผมคิดว่าพูดมาตรง ๆ ไปเลยดีกว่า ว่าธนาธรห้ามยุ่งการเมือง” ธนาธรกล่าว