“ไทยสร้างไทย” สำรวจราคาส้มโอ แนะรัฐสั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือเกษตรกร

พรรคไทยสร้างไทย บุกตลาดไท สำรวจราคาส้มโอ ชี้ 3 ประเด็นหลักเพิ่มต้นทุน ขนส่ง-แมลงศัตรูพืช-เปิดตลาดรองรับ เสนอรัฐ ให้ทุกหน่วยงาน จัดทำมาตรการช่วยเหลือประชาชนภาคเกษตรกร

วันที่ 21 กันยายน 2564 นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมและข้อมูล พรรคไทยสร้างไทย พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ตลาดไท เพื่อสำรวจราคาส้มโอ และรับฟังปัญหาจากพ่อค้าแม่ค้า และเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอในฤดูกาลผลไม้ที่มาถึงนี้

โดยพบว่า มี 3 ประเด็นหลัก ที่เป็นปัจจัยเพิ่มต้นทุนสินค้าการเกษตรส้มโอ คือต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตค่าปุ๋ย และปัญหาแมลงศัตรูพืช แต่ส้มโอยังคงราคาเท่าเดิม รวมถึงประเด็นการเปิดตลาดสินค้าการเกษตร ที่ยังไม่มีการผลักดันจากภาครัฐ ซึ่งตนเห็นว่ารัฐต้องสนับสนุน และเยียวยาต้นทุนของเกษตรกรที่เพิ่มสูงขึ้น ผลักดันการเปิดตลาด เพื่อรองรับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน

นอกจากนี้ ผลกระทบการส่งออก โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด ทำให้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง โดยปกติจะส่งออกไปยังประเทศจีน 90% ผู้ประกอบการประสบปัญหาขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า กระทบการส่งออกกว่า 30% มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 80-90 ล้านบาท/ปี

“รัฐต้องมีประชาสัมพันธ์และสนับสนุนให้ผักและผลไม้ สามารถเข้าถึงตลาดได้ในระยะแรกโดยการลดค่าขนส่ง ซึ่งการที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดตัวบริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน ฟิ้วซ์ โพสต์ (FUZE POST) สามารถที่จะทำการจัดส่งผักและผลไม้ได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งขอให้รัฐพิจารณาที่จะจัดส่งฟรี โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดนี้”

นายเทพฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐต้องให้กระทรวงต่างประเทศติดต่อการค้ากับประเทศเนเธอร์แลนด์, ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศเยอรมนี และประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้นำ ที่นำเข้าส้มโอ 19.09%, 7.75%, 7.25% และ 7.20% ตามลำดับ รวมเป็น 41.29% ของตลาดส้มโอโลก แต่ปัจจุบันไทยส่งออกประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งมีตัวเลขนำเข้าเป็นอันดับสอง 9.85% จะเห็นได้ชัดว่าไทยยังมีโอกาสในการส่งออกไปประเทศอื่นๆ รัฐฯต้องเร่งต่อรองทางการค้าเพื่อสร้างข้อตกลงรัฐบาลสู่รัฐบาล (G2G) ซึ่งจะช่วยสินค้าเกษตรกร ส้มโอไทยได้อย่างดี

ทั้งนี้ นายเทพฤทธิ์ กล่าวถึงข้อเสนอมาตรการช่วยเกษตรกรในระยะยาวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ต้องสนับสนุนการศึกษาวิจัย เพื่อให้พัฒนาและเพิ่มรูปแบบการแปรรูปอาหาร ส้มโอทั้งตัวเนื้อส้มโอและเปลือกสามารถแปรรูปได้หลายรูปแบบเพิ่มมูลค่า และเก็บรักษาได้นาน ซึ่งไทยสามารถที่จะต่อยอดจากตลาดส้มโอสดโลก เป็นสินค้า ผลิตภัณฑ์ส้มโอได้

“รัฐต้องมีการวางยุทธศาสตร์ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกร โดยหน่วยงานของรัฐต้องสามารถที่จะแนะนำและช่วยเหลือภาคเกษตรให้สามารถขายต่อทั้งตลาดไทยและตลาดโลก ซึ่งส้มโอยังมีโอกาส พรรคไทยสร้างไทยต้องการให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือประชาชนภาคเกษตร”นายเทพฤทธิ์กล่าวทิ้งท้าย