ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ชาวเน็ตจีนเสียดายหนัก หลังรู้ว่าแชมป์โอลิมปิกเหรียญแรกของแคนาดา คือเด็กหญิงจีนที่ถูกทิ้ง จาก ‘นโยบายลูกคนเดียว’ เมื่อ 20 ปีก่อน จุดชนวนให้นโยบายดังกล่าวที่ถูกยกเลิกไปแล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์
วันที่ 27 กรกฎาคม เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า ‘แม็กกี แมคนีล’ นักว่ายน้ำชาวแคนาดาได้ครองแชมป์โอลิมปิก 2020 หลังเฉือนเอาชนะ ‘จาง หยูเฟย’ นักว่ายน้ำชาวจีน ในการแข่งขันว่ายน้ำท่าผีเสื้อระยะทาง 100 เมตร ไปด้วยเวลา 55.59 วินาที น้อยกว่าจางแค่ 0.05 วินาทีเท่านั้น
ตามรายงานระบุว่าแมคนีล ถูกพ่อแม่แท้ ๆ ของเธอทอดทิ้งหลังจากให้กำเนิดเธอในเมืองจิ่วเจียง มณฑลเจียงซี เมื่อปี 2543 และหนึ่งปีต่อมา ซูซาน แมคนีล และเอ็ดเวิร์ด แมคนีล ก็ได้รับอุปการะเธอและน้องสาวจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าท้องถิ่น แล้วพาพวกเธอไปอยู่ที่แคนาดา
แมคนีลเริ่มว่ายน้ำในปี 2551 ก่อนจะกลายเป็นดาวรุ่งในมหาวิทยาลัยมิชิแกน ความสามารถของเธอแย่งเด่นชัดขึ้นหลังจากที่เธอสามารถโค่นแชมป์โลก ในการแข่งขันท่าผีเสื้อระยะทาง 100 เมตร คว้าเหรียญทองด้วยเวลา 55.83 วินาที ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่เมืองกวางจู เกาหลีใต้ เมื่อปี 2562
แชมป์โอลิมปิกอายุ 21 ปีคนนี้ก็เป็นหนึ่งในเด็กจำนวนมากที่ถูกทอดทิ้งภายในจีน จากนโยบายลูกคนเดียวที่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวดังกล่าวในวงกว้าง
“ลองนึกภาพถ้าเธอไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือถ้าเธอไม่ถูกพ่อแม่แท้ๆ ทิ้งไป ตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไร” “การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอได้รับการดูแลและฝึกอบรมที่มีคุณภาพ” “ถ้าเธอยังอยู่ในจีน เธออาจจะต้องลาออกจากโรงเรียน เพื่อสนับสนุนน้องชายของเธอ” ชาวเน็ตจีนกล่าว
ชาวเน็ตจีนหลายคนกล่าวว่า แม้ผู้ชนะโอลิมปิกรายนี้จะเป็นชาวจีนโดยกำเนิด แต่เหรียญทองของแมคนีลไม่ได้สร้างเกียรติให้กับจีนเลย “เธอถือสัญชาติแคนาดา เครดิตทั้งหมดควรยกให้ผู้ที่เลี้ยงและฝึกฝนเธออย่างดีในแคนาดา” บ้างก็รู้สึกละอายใจที่สื่อจีนรายงานว่าแมคนีลเกิดในจีน และยังกล่าวว่าสิ่งที่ควรจะพูดถึงควรเป็นเรื่องราวที่เธอถูกทอดทิ้งโดยชาวจีนมากกว่า
ทางด้านแมคนีลนั้น เธอได้กล่าวในงานแถลงข่าวหลังจากจบการแข่งขันว่า “ฉันเกิดในจีน และถูกรับเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก และนั่นคือมรดกจากจีนเท่าที่ฉันมี ฉันเป็นคนแคนาดา ฉันเป็นชาวแคนาดามาโดยตลอด นั่นเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ในการเดินทางของฉัน เพื่อมาสู่จุดที่เป็นฉันในวันนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องเมื่อพูดถึงการว่ายน้ำ”
ทั้งนี้ ‘นโยบายลูกคนเดียว’ ของจีน ถูกใช้มานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี 2523 ก่อนที่ในปี 2558 จะผ่อนปรนเป็นนโยบายลูกสองคน และขยับเป็นนโยบายลูกสามคนในปี 2564 เพื่อรับมือกับวิกฤตด้านประชากร ที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มอย่างรวดเร็ว
ภายใต้นโยบายลูกคนเดียว หน่วยงานท้องถิ่นที่ต้องการบรรลุเป้าหมายด้านประชากร มักใช้มาตรการรุนแรง และถ้าหากใครฝ่าฝืนก็ต้องเสียค่าปรับจำนวนมาก และประสบความยากลำบากในการหางาน ทำให้หลายครอบครัวต้องนำลูกวัยแบเบาะไปทิ้งไว้หน้าประตูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โรงเรียน หรือแม้แต่บนถนน
ที่มา : South China Morning Post