“เพื่อไทย” แจง ปม “7 ส.ส.ไม่ลงคะแนน พ.ร.ก. 5 แสนล้าน-ศรัณย์วุฒิ” โวเลือกตั้งใหม่ ชนะแน่

“เพื่อไทย” แจง ปม 7 ส.ส.ไม่ลงคะแนน พ.ร.ก. 5 แสนล้าน แจงปม”ศรัณย์วุฒิ” โวลั่น เลือกตั้งใหม่ มั่นใจชนะแน่ แม้ใช้ระบบเดิม

วันที่ 11 มิ.ย. เมื่อเวลา 09.35 น. ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวชี้แจงถึงกรณีพรรคเพื่อไทย พบ 7 ส.ส.ที่ไม่ปรากฏการลงคะแนนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า หลายคนมีการแจ้งล่วงหน้าต่อทางพรรคเพื่อไทยว่าติดภารกิจ และเหตุผลหลายคนก็ฟังขึ้น เช่น ลาไปพบแพทย์

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ที่ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมเสนอร่างแก่ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา นายวิษณุกล่าวว่า ปล่อยให้มันตกผลึกก่อน เมื่อถามถึง กรณีที่ได้เข้า พบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 มิ.ย.ว่า เป็นการพูดคุยถึง พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งเข้าเข้าสู่การประชุมสภาฯ ในวันที่ 9 มิ.ย.

เมื่อถามว่ากรณีกระแสการดูด ส.ส. ที่พรรคพลังประชารัฐ จะจัดประชุมพรรคที่จังหวัดขอนแก่นนั้นอาจเป็นการดูดฐานเสียงหรือไม่ นายประเสริฐ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ช่วงนี้พรรคการเมืองจะต้องมีการประชุมสามัญประจำปีอยู่แล้ว ความจริงแต่ละพรรคต้องเริ่มจัดประชุมในเดือนเม.ย.

แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่ละพรรคก็ได้เลื่อนออกไป ซึ่งการที่แต่ละพรรคไปประชุมตามภาคต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวไม่ได้กังวลเรื่องการดูดส.ส.แต่อย่างใด เพราะได้มีการทำความเข้าใจกับสมาชิกภายในพรรคเรื่องการอยู่ร่วมกันและเรื่องอุดมการณ์

ฉะนั้น ตนยังมั่นใจว่าสมาชิกทุกคนภายในพรรคยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และเร็วๆนี้พรรคเพื่อไทยก็จะมีการประชุมใหญ่เช่นกัน ซึ่งการประชุมใหญ่ครั้งนี้จะมีการปรับโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยเล็กน้อย

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับไทม์ไลน์การทำงานใน 1 ปีนั้น อาจจะมีการยุบสภาในช่วงกลางปีหน้าหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนก็คิดว่ายังไม่แน่นอน เพราะอาจจะเป็นอารมณ์ในช่วงนั้นๆ จึงพูดเช่นนั้น ที่ผ่านมายกตัวอย่างเก่าๆ เช่น เรื่องเลือกตั้งหากย้อนมาตั้งแต่ช่วงที่มีการปฏิวัติในปี 57 ที่จะมีการเลือกตั้งในปีนั้นๆ ก็เลื่อนมาตลอด

รวมถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้สักที ตนคิดว่าการให้สัมภาษณ์ก็เป็นเรื่องอารมณ์นายกฯ แต่ก็รับฟังเอาไว้

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องการเลือกตั้ง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมและมั่นใจมาก โดยจะส่งผู้สมัครให้ครบทั้ง 350 เขต แต่จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยส่งส.ส.ไม่ครบทุกเขต โดยส่ง 250 เขตเท่านั้น แต่หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน พรรคเพื่อไทยก็ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครทั้ง 400 เขตและมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน

รวมทั้งมั่นใจว่าส.ส.ของพรรคทุกคนยังอยู่กับเราครบ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองที่มีความมั่นคง

ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้ามีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ต่อให้ไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญและมีระบบเลือกตั้งเหมือนเดิมก็มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้จำนวนส.ส.ทั้ง 2 ระบบมากกว่าเดิม

ล่าสุด นายศรัณย์วุฒิ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ว่า สำหรับเรื่องการลงมตินั้น ไม่เคยพลาด แต่กับพ.ร.ก.ฉบับนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญที่จะแก้ชีวิตประชาชนได้ และไม่เห็นด้วย จึงได้ลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนดีกว่า ไปแก้ปัญหาเรื่องโควิด ที่ติดกันทั้งหมู่บ้าน ไปดูทั้งอาหาร ประสานงาน เร่งฉีดวัคซีน ที่จังหวัดก็ได้น้อย เมื่อวานก็ต่อสายถึงปลัดกระทรวงสธ. เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนเหมือนกัน ไม่ได้คิดจะย้ายขั้ว ยึดมั่นในประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการเด็ดขาด

ส่วนการไม่ไปลงมตินั้น นายศรัณย์วุฒิ ระบุว่า ได้แจ้งกับทางวิปไว้แล้ว แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยนามว่าใคร โดยแจ้งก่อนล่วงหน้า ว่าต้องไปลงพื้นที่ เสร็จแล้วก็รีบตีรถมาประชุม กมธ.งบฯ ที่ทำหน้าที่อยู่ ยืนยันว่าแจ้งวิปแล้ว ศรัณย์วุฒิ เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ไม่แจ้งก็ต้องบอกไม่แจ้ง

สำหรับ กระแสการย้ายพรรคนั้น นายศรัณย์วุฒิ ยอมรับว่า มีกระแสเข้ามามาก มีมาทาบทามทุกพรรค พรรครัฐบาลก็มาเกือบทุกพรรค แต่ต้องยึดมั่นว่าเรามีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร บางครั้งก็ต้องแลกด้วยความเจ็บปวด ถ้าเราจะเป็นผู้แทนราษฎรที่มีคุณภาพ ก็ต้องทำงานหนักทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ จะอภิปรายก็ต้องทำงานหนัก

“บางครั้งผมมีปัญหา มันอึดอัดใจ ผมขอเวลาทางพรรค 1 ชั่วโมง พรรคยืนยันว่าไม่ให้ ให้แค่ 30 นาที ผมเตรียมชาร์ตเยอะแยะ เวลาจะอภิปรายก็ต้องบอกเขา และ สอนมวยเขาด้วย ไม่ใช่ขอแค่ให้ได้อภิปราย จึงขอไม่อภิปรายทั้ง 2 ครั้งหลัง ผมเชื่อว่า ผู้บริหารในพรรคไม่กี่คน มีอำนาจบาตรใหญ่ และตัดสินใจไม่กี่คน ผมเลยตัดสินใจไม่อภิปรายทั้ง 2 รอบเลย ผมคิดว่า อภิปรายแบบขอให้ได้อภิปรายไม่ทำ”

“อึดอัด แต่ว่าความอึดอัดเป็นเฉพาะที่ เฉพาะเรื่อง เฉพาะคน เรื่องอุดมการณ์พรรคยังมี ผมก็ยังเคารพท่านนายกฯ ทักษิณ สิ่งดีๆในพรรคก็ยังดี แต่ผู้บริหารบางคน บางกลุ่ม แย่มาก บางทีเราออกความเห็นแรงๆ คิดว่าเราย้ายพรรคไหม ไม่ใช่ แต่ก็ต้องรับฟังกันบ้าง ถ้าไม่ใช่ศรัณย์วุฒิ และจิตใจอ่อนไหว ต้องไปบ้าง”

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวอีกว่า ต้องแกล้งยอมแพ้ศึก เพื่อชนะสงครามครั้งเดียว เกมทางการเมือง แต่นี่จะชนะทั้งหมด ไปเป็นลูกไล่เขา ไม่ทันคนเลย อันนี้ไม่ได้ต่อว่าทั้งพรรค คนที่ดีก็มี แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ เห็นใจท่านทักษิณ ท่านไปอยู่ไกล ต้องอาศัยบางคนช่วย แต่คนก็ใช้จุดนี้มาบริหารผิดๆ