วันที่ 20 พ.ค. บีบีซี รายงานว่า อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 11 (Internet Explorer) ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) จะยกเลิกการสนับสนุนหลังเปิดบริการมานานกว่า 26 ปี

Microsoft แจ้งข่าวในบล็อกว่า Internet Explorer 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นสุดท้าย จะไม่ปรากฏในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 (Windows 10) เวอร์ชั่นหลังวันที่ 15 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป

Internet Explorer เปิดตัวครั้งแรกพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95 และแม้ว่า Microsoft จะยกเลิกเบราว์เซอร์เก่าแก่ตัวนี้มาหลายปีแล้ว แต่จำเป็นต้องออกแพตช์ (Patch) หรือโปรแกรมแก้ไขฉุกเฉินด้วยเหตุผลความปลอดภัยในปี 2562 ซึ่งคาดว่าราว 8% ของคนทั่วโลกยังใช้งานเบราว์เซอร์ตัวนี้อยู่

ระหว่างปี 2543-2548 Internet Explorer มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 90% (กูเกิล โครม Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในปัจจุบัน) แต่ในปี 2556 Microsoft ถูกปรับเป็นเงิน 561 ล้านยูโร ในเวลานั้น เนื่องจากไม่สามารถให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการของวินโดวส์เลือกใช้งานเบราว์เซอร์เจ้าอื่นได้

แม้ว่าในปี 2553 Microsoft จะเพิ่มป๊อป-อัพให้ผู้ใช้งานเลือกเบราว์เซอร์ตามต้องการ แต่คุณสมบัติดังกล่าวถูกถอดออกไปจากวินโดวส์หลังเวอร์ชั่นในปีถัดมา ซึ่ง Microsoft แถลงว่าเกิดจากความผิดพลาดบางประการ

ในปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ เอดจ์ (Microsoft Edge) เบราว์เซอร์ตัวใหม่ของวินโดวส์ มีโหมดความเข้ากันได้กับ Internet Explorer ซึ่งจะยังทำงานต่อไป

ฌอน ลินเดอร์เซย์ ผู้จัดการโปรแกรม Microsoft Edge เขียนในบล็อกว่า เบราว์เซอร์รุ่นใหม่อย่าง Microsoft Edge เป็นประสบการณ์การท่องเว็บที่รวดเร็วกว่า ปลอดภัยกว่า และทันสมัยกว่า และตอนนี้สามารถจัดการกับแอปพลิเคชันรุ่นเก่าๆ ได้ดีขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม Microsoft ชี้แจงข้อยกเว้นบางประการในการใช้งาน Internet Explorer ต่อไปหลังจากวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ได้ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้งาน Internet Explorer Mode ใน Microsoft Edge ได้

ส่วนผู้เชี่ยวชาญไอทีเชิงพาณิชย์จะต้องตั้งค่า Internet Explorer Mode ใน Microsoft Edge เพื่อสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่ใช้ Internet Explorer แบบเดิมสำหรับผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ได้

Internet Explorer Mode จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงปี 2572 เป็นอย่างน้อย และ Microsoft จะแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนจะยุติบริการ Internet Explorer Mode