เคลียร์แล้ว? ‘ยุทธพงศ์’ จี้ “ประยุทธ์” ประกาศวัคซีนโควิดวาระแห่งชาติ แล้วกระจายยังไง

‘ยุทธพงศ์’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องเคลียร์ให้ชัด กระจายวัคซีนอย่างไร หลังประกาศเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมจี้แจงปมซื้อประกันโควิดบุคลากรทางการแพทย์ หลังพบหลักฐานนครพนมไม่ได้ แต่เป็น ‘ครูแก้ว’ รวบรวมเงินจากพรรคพวกแทน

วันที่ 16 พฤษภาคม 2564 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมว่าให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายให้ได้เดือนละ 15 ล้านโดส ตั้งแต่มิถุนายน 64 เป็นต้นไป ว่า เท่ากับว่าต้องฉีดได้ 5 แสนโดสต่อวันมันทำได้จริงหรือไม่ เพราะตั้งแต่มีการฉีดวัคซีนมาในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 64 จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 64 มีการฉีดวัคซีน 2,218,420 โดส เฉลี่ย 3 หมื่นโดสต่อวัน คำถามคือจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถฉีดวัคซีนจาก 3 หมื่นโดสต่อวัน เป็น 5 แสนโดสต่อวัน ดังนั้น อยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยตอบให้ชัดเจนว่าจะกระจายวัคซีนอย่างไร และที่ระบุว่าสามารถวอล์กอินเข้าไปฉีนวัคซีนได้เลย คือไปที่ใด ตั้งแต่วันใด

และเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกพ.ร.ก.เงินกู้ 1.90 แสนล้านบาท เหตุใดวันนี้จึงยังไม่มีวัคซีนอีก ออกเป็นพ.ร.ก.อย่างเร่งด่วน เงินเอาไปทำอะไร อีกทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ทางเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่าวัคซีนซิโนแวคที่รัฐบาลบริจาคให้กับประเทศไทย 5 แสนโดสถึงกรุงเทพฯแล้ว จึงงงกับวาระแห่งชาติของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส จะเป็นไปได้อย่างไร

และจากสถิติประชาชนที่ขอจองฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมของกรุงเทพมหานคร ตามโรงพยาบาลต่างๆ 10 อันดับแรก พบว่ามีผู้ขอจองฉีดวัคซีน 190,259 คน ขอถามว่ามีคนจองเท่านี้จะไปฉีดให้กับใคร 5 แสนโดสต่อวัน อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาเคลียร์ให้ชัดเจนด้วย

นายยุทธพงศ์ กล่ายต่อว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่ารัฐบาลได้ทำประกันภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่เสียสละเสี่ยงภัยปฏิบัติภารกิจ จำนวน 2.7 แสนราย วงเงินคุ้มครอง 2.7 แสนล้านบาท แต่เหตุใดที่จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 โพสต์ขึ้นป้ายขอขอบคุณมวลมหามิตรทุกท่านที่ร่วมกันสร้างขวัญและกำลังใจมอบประกันชีวิตจากภัยโควิดให้กับนักรบด่านหน้าอสม.นครพนมทุกคน

ดังนั้นการที่นายกฯระบุซื้อประกันคือซื้อไปให้ใคร เพราะที่จ.นครพนม นักรบด่านหน้าไม่ได้ประกัน แต่ต้องให้นายศุภชัย ขอมาจากมวลมหามิตร ขณะเดียวกันในการประชุมส่วนราชการเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในฐานะผอ.ศบค.จังหวัด ยังได้ขอบคุณนายศุภชัย ที่ช่วยซื้อประกันให้กับอสม.ด้วย ซึ่งในจังหวัดนครพนมมีอสม.ประมาณ 1.4 หมื่นคนคนละ 500 บาท เป็นเงิน 7 ล้านบาท

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า จากหลักฐานในคลิปวีดิโอการประชุมเห็นได้ชัดไม่ใช่เงินของทางราชการแต่เป็นเงินของนายศุภชัย ที่รวบรวมมาจากพรรคพวก และไม่ใช่แค่อสม.เพราะจะมีการซื้อประกันให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านด้วย จึงอยากถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ นำเงินไปทำอะไร เหตุใดที่จังหวัดนครพนมจึงไม่ได้ ไปให้ใคร แต่กลับเป็นหน้าที่ของนายศุภชัย ที่ไปรวมรวบเงินจากมวลมหามิตรเพื่อมาซื้อประกันเสี่ยงภัยโควิด เท่ากับว่าพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผอ.ศบค.บริหารผิดพลาด

ขณะเดียวกันนายศุภชัย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือได้ว่าเป็นรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นจะต้องมีจริยธรรมขั้นสูงสุด เพื่อความโปร่งใสและสง่างาม จะต้องออกมาเปิดเผยว่ามวลมหามิตรชื่ออะไร มีใครบ้าง บริจาคคนละกี่บาท เพราะขณะนี้ที่รัฐสภากำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ดังนั้น มวลมหามิตรจะต้องไม่มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 128 คือต้องมีความโปร่งใส จะเป็นพวกบริษัทรับเหมาก่อสร้างในสภาหรือไอทีไม่ได้ รวมทั้งร้านอาหารที่ผูกขาดก็ไม่ได้เด็ดขาด นายศุภชัยควรต้องเปิดเผยให้ชัดเจนว่าเงินที่รวบรวมมานั้น 7 ล้านบาทมีที่มาอย่างไร ขณะเดียวกันนายกฯในฐานะผอ.ศบค.ต้องรับผิดชอบ เหตุใดไม่ดูแล อสม. เหตุใดให้นายศุภชัย ดูแลทั้งที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวของนายยุทธพงศ์ ได้นำป้ายข้อความของนายศุภชัยที่ขึ้นขอบคุณมวลมหามิตรและคลิปวีดิโอการประชุมที่นายศุภชัย ไปประชุมร่วมกับนายไกรสร ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมมาเป็นหลักฐานในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย