“ณัฐวุฒิ” ก้าวไกล จี้ รบ.ช่วย เด็ก สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ในโควิดระลอกใหม่ หวั่นซ้ำรอยระลอกแรก

“ณัฐวุฒิ” ก้าวไกล รำลึกถึง “ปลายฝน” เหยื่อฆ่าตัวตายจากโควิดระลอกแรก เตือน รบ. เร่งช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ในโควิดระลอกใหม่ ก่อนประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

วันที่ 25 เมษายน 2564 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ว่านอกจากจะส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพ การเข้าถึงวัคซีน การตกงาน การเข้าไม่ถึงการเยียวยาต่าง ๆ ที่พรรคได้นำเสนอไปแล้ว

อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือผลกระทบทางสังคม ทั้งกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ความรุนแรงในครอบครัว การฆ่าตัวตาย ตลอดจนผลกระทบต่อเด็กที่ต้องอยู่บ้านเนื่องจาก รร.และศูนย์เด็กเล็กต้องปิดตัวลง พร้อมเตือน รบ.เร่งประสานงานท้องถิ่น อสม. และ อพม. ปรับระบบคัดกรองและให้ความช่วยเหลือในรูปแบบเชิงรุกโดยเร่งด่วนเป็นรูปธรรม ก่อนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนปีที่ผ่านมา

“อีกสามวันจะครบรอบ 1 ปีการฆ่าตัวตายของคุณปลายฝน อ่ำสาริกา หญิงสาวอายุเพียง 19 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตลงภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิดระลอกแรก และไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล พรรคก้าวไกลเองไม่เคยลืมกรณีดังกล่าว โดยได้มอบหมายให้นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 เจ้าของพื้นที่ ติดตามสภาพครอบครัว โดยเฉพาะบุตรของคุณปลายฝนเป็นระยะ เพราะเห็นว่ากรณีนี้เป็นหนึ่งในภาพสะท้อนความผิดพลาดของ รบ.ในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้ร้บผลกระทบจากโควิดระลอกแรก เหมือนที่เกิดขึ้นอีกหลายกรณี จนมีการฆ่าตัวตายมากเป็นประวัติการณ์” นายณัฐวุฒิระบุ

สำหรับการติดตามการทำงานของรัฐบาลและแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้มอบหมายการดำเนินการต่าง ๆ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน.พรรค และนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รอง หน.พรรค ดูแลผลกระทบและการแก้ปัญหาเชิงมหภาค โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ติดตามการทำงานของ รบ. ด้านสุขภาพ วัคซีน การดูแลผู้ป่วยและผู้มีภาวะเสี่ยงต่าง ๆ นายสุเทพ อู่อ้น นายทวีศักดิ์ ทักษิณ นางสาววรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ติดตามการแก้ปัญหาการตกงานและการเยียวยาของ รบ.ต่อผู้ใช้แรงงาน

สำหรับตน รวมถึงนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขตบางขุนเทียน นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม เขต 3 เป็นต้น ได้รับมอบหมายให้ติดตามการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น คนทำงานกลางคืน พนักงานบริการ ศิลปิน นักดนตรี และกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ ที่อาจตกหล่นจากการให้ความช่วยเหลือ โดยพรรคก้าวไกลจะใช้ ส.ส. และองคาพยพของพรรคทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัดประสานการทำงานอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้การทำงานของพรรคก้าวไกลมิใช่เป็นไปเพื่อจับผิดการทำงานของ รบ. และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกันอย่างหนัก แต่ต้องการเสนอแนะการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งปัญหาระยะสั้น เช่น การจัดหาและฉีดวัคซีน การหาเตียงให้กับผู้ป่วย ตลอดจนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำเป็นของ รบ. อีกทั้งต้องการเสนอการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่จะส่งผลต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติในระยะยาว โดยเฉพาะการใช้งบประมาณปี 2565 ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในปลายเดือน พ.ค.นี้

สำหรับการดูแลผู้ได้รับผลกระทบทางสังคมที่ตนเองได้รับมอบหมาย ทั้งกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ความรุนแรงในครอบครัว การฆ่าตัวตาย ตลอดจนผลกระทบต่อเด็กที่ต้องอยู่บ้านเนื่องจาก รร.และศูนย์เด็กเล็กต้องปิดตัวลงนั้น พรรคพบว่าในการระบาดระลอกแรก จะเป็นการแก้ปัญหาอย่างไม่เป็นระบบ มีหลายกรณีที่ได้รับการประสานงานหรือร้องเรียนมา ต้องใช้วิธีประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพ้ฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือบางครั้งเป็น ส.ส.ในพื้นที่เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นแบบปีที่ผ่านมา ก็จะเกิดความล่าช้าไม่ทันการณ์ เช่น ผู้ป่วยติดเตียงที่ขาดอาหาร ยา หรือบางครอบครัวที่ตกงานจนนำไปสู่การที่พ่อหรือแม่หรือลูกหรือคนในครอบครัวต้องฆ่าตัวตาย เชื่อว่าทุกคนก็คงเจ็บปวดและไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบกรณีของ “ปลายฝน” อีก โดยตลอดระยะเวลาการระบาดของโควิดระลอกใหม่ เริ่มมีเรื่องร้องเรียนแบบนี้เข้ามาเป็นระยะ ดังเช่นเมื่อวานนี้ก็มีผู้ร้องเรียนกรณีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งตนเองก็ได้ประสานงานกับผู้ใหญ่ของกระทรวง พม.ให้เร่งเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือ

“ด้วยสถานการณ์แบบนี้ จะรอตั้งรับจนกว่าจะมีผู้มาแจ้งหรือร้องเรียนก่อนไม่ได้ แต่ต้องทำงานเชิงรุกในการแก้ไขปัญหา จึงขอเรียกร้องให้ รบ. เร่งประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจำหมู่บ้าน (อพม.) ปรับระบบการคัดกรองและให้ความช่วยเหลือในรูปแบบการทำงานเชิงรุกต่อกลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ โดยเร่งด่วนเป็นรูปธรรม ให้สมกับที่เคยประกาศว่า “จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ก่อนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนปีที่ผ่านมา” นายณัฐวุฒิกล่าวในที่สุด