เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ว่า ยอดคนติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 14-18 เมษายน รวม 5 วัน พบยอดผู้ติดเชื้อประมาณ 8,000 คน และยอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าการที่รัฐบาลควบคุมไม่ได้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังจากเทศกาลก็ยังมียอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ มีการระบาดไปทั่วประเทศ วันนี้มีคนติดโควิดหรือหากใครมีอาการหนักต้องเข้าไอซียู แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับรักษาเพราะเต็มจนล้น ต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนามอย่างเดียวตามที่ปรากฎตามสื่อ

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า ประเทศในอาเซียน ช่น ประเทศสิงคโปรอยู่อันดับหนึ่ง ได้วัคซีน 19.39% อยู่อันดับที่ 33 ของโลก กัมพูชาได้อันดับที่ 75 ของโลก ได้รับวัคซีนไปแล้ว 7.32 % เมียนมาอยู่ที่อันดับ 106 ขณะที่ประเทศไทยเพิ่งฉีดวัคซีนไปทั้งหมด 523,000 โดส แต่ที่ฉีดครบ 2 โดส เพียงแค่ 81,429 คน อยู่ลำดับที่ 127 ของโลกในการฉีดวัคซีน มีประชากร 70 ล้านคน แต่ได้รับวัคซีนไปร้อยละ 0.73 แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จัดการวัคซีนได้ล่าช้าและต้องรีบนำวัคซีนเข้ามาฉีดให้ประชาชนคนไทยโดยด่วน กระทรวงสาธารณสุขประกาศจะได้วัคซีนเดือนมิถุนายนเข้ามา 6 ล้านโดส และเดือนกรกฎาคมอีก 10 ล้านโดส หรืออีก 1 เดือนครึ่ง ล่าช้าเกินไป

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้อยากเรียกร้องเรื่องเงินช่วยเหลือประชาชน ให้รัฐบาลเร่งเยียวยา เพราะปากท้องผู้คนรอไม่ได้ รัฐบาลต้องรีบดำเนินการ ซึ่งการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ฝ่ายค้านจะใช้เวทีในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 วาระ 1 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาวันที่ 27-28 พฤษภาคม อภิปรายถึงความล้มเหลวของพล.อ.ระยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถึงการแก้ปัญหาโควิด-19 เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสาธารณสุข