พรรคร่วมฝ่ายค้านยอมรับผิดหวัง หลังร่างรธน.ถูกคว่ำวาระ 3 “สมพงษ์” ประกาศเดินหน้าผลักดันกฎหมายประชามติ รองรับเสนอแก้รธน.อีกครั้ง ด้านเลขาฯ ก้าวไกล อัด รบ.- ส.ว.เล่นเกมการเมือง ยื้อเวลา หลอกลวงปชช. จี้ “ประยุทธ์-วิษณุ” ออกมารับผิดชอบ

วันที่ 18 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวิฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านถึงผลการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกคว่ำ วาระ 3 ว่า สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา เราเสียใจและผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยจากนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างจริงจังในการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ร่างประชามติที่พิจารณาในช่วงบ่ายวันนี้ให้ลุล่วงไปด้วยดี เพื่อรองรับการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งในการเปิดสมัยประชุมหน้า

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันหลักการและความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญในการโหวตวาระ 3 เพราะรัฐสภาไม่สามารถดำเนินการอย่างอื่นได้ เนื่องจากได้ผ่านขั้นตอนการโหวตในวาระ 1 และวาระ 2 แล้ว จึงจำเป็นต้องดำเนินการลงมติวาระ 3 หากรัฐสภาไม่ลงมติก็จะถือว่าขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง ทั้งนี้เราคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะทุกฝ่ายเคยเห็นพ้องว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ควรแก้ไข และร่วมกันเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข แต่กลับต้องผิดหวังจากผลการลงมติ ดังนั้น ขอตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว. ที่เอาเกมการเมืองมาเล่นเหนือประโยชน์ของประชาชน เล่นเกม ซื้อเวลา ไม่กล้าลงมติ ร่วมกันล้มญัตติที่เขียนเอง เพื่อรักษาอำนาจโดยหลอกลวงประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ยอมแพ้และไม่ท้อถอยจะเดินหน้าผลักดันให้ประเทศมีรับธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยต่อไป

ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผิดหวังที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรควอล์กเอาต์ และให้ความเห็นกล่าวหาพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าการเดินหน้าโหวตวาระ 3 ไม่จริงใจให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะถูกคว่ำโดย ส.ว. เรายืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ดำเนินการตามยืนยันจุดยืนนี้มาตลอด และแสดงความมุ่งมั่นที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชนในการผลักดันให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนที่รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. เรื่องนี้เป็นที่ชัดเจนว่าฝ่ายที่ต้องการล้มกระบวนการจัดตั้ง ส.ส.ร. คือ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมมือกับ ส.ว. ไม่จริงใจให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นการเล่นเกม ยื้อเวลาหลอกลวงประชาชน วันนี้ชัดเจนต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญให้ดำเนินการพิจารณาวาระ 3 ต่อได้ แต่ทาง ส.ว.และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐก็คว่ำร่างรัฐธรรมนูญอยู่ดี ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องหยุดเล่นละครหลอกลวงประชาชนได้แล้ว

ส่วนนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า มีการกล่าวหาว่าการเดินหน้าโหวตของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่จริงใจ ถามว่าถ้าไม่มีทางนี้จะเป็นทางใด ซึ่งการเดินหน้าโหวตวาระ 3 เท่านั้นที่เป็นความหวัง และวันหน้าค่อยทำใหม่ เราไม่คิดว่าวันนี้มันจะตก แต่คิดเพียงแค่ว่าจะผ่านได้ยาก เพราะหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวต แต่ก็ผิดหวังและยืนยันว่าเรื่องนี้เราเดินตามแนวทางรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ขอความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เพราะร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกคว่ำไปจาก ส.ส.รัฐบาลและส.ว. เพื่อให้สังคมได้เห็นความจริงใจ

ส่วนที่มีคนเตรียมฟ้องสมาชิกรัฐสภาที่โหวตลงมติเห็นด้วยวาระ 3 นั้น นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความจริงเป็นสิทธิในการออกเสียงในรัฐสภา เป็นเอกสิทธิ์หน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของสมาชิกแต่ละคน การดำเนินการลงคะแนนทั้งหลายเป็นการทำตามหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ คนที่ไม่ทำหน้าที่นี้ต่างหากที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ การไปฟ้องตนไม่เห็นว่าจะทำในประเด็นอะไร หากเป็นเรื่องการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญถามว่าฝ่าฝืนตรงไหน เพราะทำตามขั้นตอนมาโดยตลอด ทั้งนี้ ตนเสนอว่าหากมีใครไปร้องเรา เราก็จะต้องดำเนินการทางกฎหมายกลับ เพื่อดำเนินคดีในหลายมาตรา และให้มีความผิดทางอาญาด้วย ที่ผ่านมาร้องกันไปมาแบบไม่มีสาระมากมาย หากมีการไปร้องจริงถือเป็นขบวนการขัดขวางประชาธิปไตย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถามว่าถ้าไปร้องจะร้องด้วยข้อกล่าวหาอะไร เชื่อว่าถ้ามีการร้องจริงเราก็สามารถต่อสู้ได้ เพราะเป็นแค่ความคิดของคนที่จะร้อง และไม่มีกฎหมายรองรับ รวมถึงในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีคำใดเลยระบุว่าการกระทำของพวกเราขัดรัฐธรรมนูญ

ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ฝากถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เคยมาชี้แจงรัฐสภาว่าจะเร่งรัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยไวนั้นจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้วย จะปฏิเสธว่าเป็นเรื่องของสภาไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใบสั่ง