“เดียร์-วทันยา” มองรัฐสภาดำเนินแก้รธน.วาระ 3 ให้เสร็จก่อน ตั้งคำถามทุกอย่างหากมีปัญหาต้องเร่งแก้ใช่ไหม?

วันที่ 12 มีนาคม 2564 น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะที่การพิจารณาในวาระ 3 จะเกิดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคมนี้ แต่ได้เกิดความเห็นแบ่งออกเป็นฝ่ายที่ให้ยึดคำวินิจฉัยศาลรธน. กับฝ่ายที่ให้รัฐสภาดำเนินการตามเดิมนั้น

น.ส.วทันยา กล่าวว่า ประเด็นใหญ่ที่กำลังถกเถียงในเวลานี้คือ เรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า

“ตกลงแล้วรัฐสภาจะเดินหน้าโหวตวาระ 3 ต่อได้เลยหรือไม่ในวันที่ 17 มีนาคมนี้”

ในความเห็นส่วนตัว ลองเปรียบเทียบเรื่องนี้เหมือนบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ที่แต่ละบริษัทมีผู้ถือหุ้นจำนวนมาก การจะตัดสินใจเรื่องสำคัญของบริษัท เช่น การเพิ่มทุนบริษัท ก่อนจะดำเนินการก็ต้องขอฉันทานุมัติจากการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แต่แน่นอนว่าก่อนจะนำวาระสำคัญเหล่านี้เข้าบรรจุในวาระการประชุมผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัทที่เป็นเสมือนตัวแทนของผู้ถือหุ้นก็จะต้องเรียกประชุมกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติรายละเอียดการเพิ่มทุนก่อนที่จะนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นโหวตตัดสินเป็นลำดับสุดท้าย

ซึ่งถ้าหากเปรียบกรรมการบริษัทคือตัวแทนของผู้ถือหุ้นในการบริหารงาน ส.ส. ก็เช่นกัน คือตัวแทนของประชาชนที่ได้รับเลือกให้ไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงในสภา ดังนั้นหากมองในมุมดังกล่าว การโหวตวาระ 3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 17 นี้ ก็ควรจะดำเนินการเพื่อให้รัฐสภาอนุมัติรายละเอียดการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะนำเสนอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหากไปเริ่มตั้งต้นใหม่ด้วยการทำประชามติก่อน ประชาชนเองก็คงไม่รู้ว่าจะยึดหลักอะไรในการตัดสินใจหากไม่มีรายละเอียดใดนำเสนอเลย

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือ ในวันที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจากพิษไวรัสโควิด19 ที่นับเป็นความท้าทายของรัฐบาลอย่างยิ่งยวดในการแก้ปัญหาแล้ว หากเราจะร่วมกันหาทางออกที่ถูกต้องโดยใช้รัฐสภาที่เป็นอีกหนึ่งเสาหลักในการขับเคลื่อนประเทศเพื่อลดปัญหาวิกฤตทางการเมืองได้ก็จะเป็นเรื่องที่สมควรกระทำอย่างยิ่ง

ของทุกอย่างที่หากเราได้ทดลองใช้แล้วพบว่ามีปัญหา ก็เป็นปรกติที่เราต้องเร่งแก้ไขไม่ใช่หรือ?