นศ.-ปชช. 37 คน ทยอยรับทราบข้อหา ม.116-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จัด Performance Art หน้าสภ.เมืองเชียงใหม่

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของผู้ชุมนุม จากกรณีพนักงานสภ.เมืองเชียงใหม่ ออกหมายเรียกนักศึกษา นักกิจกรรม และประชาชน 37 คน ที่เข้าร่วมการชุมนุม #เชียงใหม่จะไม่ทน ที่ข่วงประตูท่าแพ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63 แม้การชุมนุมดังกล่าวจะผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว โดยหมายเรียกระบุข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำให้เกิดความปั่นป่วน ล่วงละเมิดกฎหมาย, ร่วมชุมนุม หรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ”
.
คดีมีนายบัญชา บุญหยุง หัวหน้ากลุ่ม “คนรักแผ่นดินเกิด” เป็นผู้กล่าวหา ทำให้ผู้ได้รับหมายเรียกทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ. 64) โดยเป็นการออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีเดียวมากที่สุดตั้งแต่เริ่มการชุมนุม #เยาวชนปลดแอก เป็นต้นมา
.
ตั้งแต่ก่อน 8.00 น. ตำรวจมีการกั้นแผงรั้วเหล็กหน้าป้ายสภ.เมืองเชียงใหม่ และกั้นตัวอาคารสถานีตำรวจ เว้นให้เหลือช่องจุดคัดกรองสำหรับคนผ่านเข้าออก และยังมีการตั้งเต้นท์พร้อมเก้าอี้สำหรับผู้ติดตามมาให้กำลังใจ และมีจุดลงทะเบียนสำหรับผู้จะเข้าออกสถานี
.
เวลา 8.20 น. พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบไม่น้อยกว่า 50 นาย จัดกำลังบริเวณสถานีตำรวจ และยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกระจายตัวอยู่โดยรอบ ในร้านค้า-ร้านกาแฟ ทั้งยังพบว่ามีตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ติดตัวอักษรย่อ “CMPD” ในชุดเครื่องแบบสีเขียวทหาร อยู่บริเวณสภ.ด้วย
.
ขณะเดียวกันบนรั้วเหล็กที่ติดตั้งรอบอาคาร ตำรวจมีการติดป้ายห้ามนำสิ่งของต้องห้ามมาใน “พื้นที่ควบคุม” ระบุว่ามี “อาวุธโดยสภาพทุกชนิด, เครื่องขยายเสียง และป้ายข้อความหรือสัญลักษณ์อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ” โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าการสั่งห้ามและกำหนดพื้นที่ควบคุมดังกล่าว อาศัยอำนาจตามกฎหมายฉบับใด
.
เวลา 9.30 น. ผู้ถูกออกหมายเรียก นักศึกษา และประชาชน ทยอยเดินทางมาที่สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้พยายามเก็บอุปกรณ์ที่อาจแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น พานทองเหลือง รองเท้าบูท ไม่ให้นำเข้ามาในบริเวณสภ. ส่วนผู้เขียนป้ายข้อความมา ก็ไม่ให้เข้าในบริเวณสภ. แต่ให้รออยู่ข้างนอกแทน ทั้งตำรวจยังประกาศให้งดจัดกิจกรรม และงดทำอาหารในสถานที่ราชการ
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดห้องประชุมชั้นสามของสถานีตำรวจ เป็นสถานที่รับทราบข้อกล่าวหา พร้อมจัดชุดผู้ต้องหาให้ทยอยขึ้นรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีชุดพนักงานสอบสวนประมาณ 15 คน คอยดำเนินกระบวนการ และให้ทนายความของผู้ต้องหารายละ 1 คน พร้อมกับผู้ไว้วางใจ 1 คน ติดตามเข้าไปในสถานีได้
.
เวลา 9.55 น. นักศึกษาผู้ถูกออกหมายเรียกได้เดินทางมาแสดง Performance Art โดยนำสีขาวและสีฟ้ามาสาดตัวที่เปลือยเปล่า ก่อนค่อยๆ เดินเข้ามาในบริเวณสภ.เมืองเชียงใหม่ ตำรวจมีการประกาศให้งดทำกิจกรรม และระบุขอให้มาให้กำลังใจเท่านั้น แต่นักศึกษายังคงแสดงต่อไป ทั้งยังมีผู้นำ “หม้อ” มาตี และนำดับเบิลเบสมาสีบริเวณสถานี
.
10.30 น. ระหว่างรอการรับทราบข้อหา นักศึกษาและประชาชนยังทยอยแสดง Performance Art หลายรูปแบบ ทั้งการเขียนป้ายผ้า การแสดงสด การแสดงเชิงสัญลักษณ์ ชูสามนิ้ว ตะโกนศักดินาจงพินาศฯ การใส่กระสอบเดิน เป็นต้น โดยตำรวจพยายามประกาศเตือนไม่ให้ทำกิจกรรม ขอให้เก็บสิ่งของ “ต้องห้าม” และขอให้อยู่ในความสงบ พร้อมจะให้เทศบาลนำรถฉีดน้ำมาล้างสีที่เปื้อน และพยายามยึดป้ายผ้าที่นักศึกษานำมาแสดง แต่ประชาชนเคาะหม้อตอบสนอง ต่อมายังมีการนำกำลังตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาเสริมในสถานีตำรวจ
.
มีรายงานว่าการแจ้งข้อหาคดีนี้ ตำรวจยังได้แจ้งข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 กับผู้ถูกออกหมายเรียกทั้ง 37 คนด้วย จากเดิมที่แจ้งว่าจะแจ้งข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ
ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน