วัคซีนโควิด-19 : ลาวได้รับจาก ‘ซิโนฟาร์ม’ 3 แสนโดส “อนุทิน” ยัน ก.พ.นี้ ล็อตแรก 2 ล้านโดสจากจีน

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เพจ วิทยุสากลแห่งประเทศจีน หรือ CRI-FM93 รายงานว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 3 แสนโดส พร้อมด้วยเข็มฉีดยา ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจากจีนมาถึงสนามบินวัดไตสากล นครหลวงเวียงจันทน์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยลาวเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่ได้รับการช่วยเหลือด้านวัคซีนจากรัฐบาลจีน

นายบุนกอง สีหาวง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข, นายเจียง จ้าย ตง เอกอัครราชทูตจีนประจำสปป.ลาว พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

โอกาสนี้ นายบุนกอง สีหาวง เป็นตัวแทนรัฐบาล และประชาชนลาวแสดงความขอบใจอย่างสูงต่อรัฐบาลและประชาชนจีนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ให้ความสำคัญและห่วงใยประชาชนลาวและเอาใจใส่ นำวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากซิโนฟาร์ม มาให้ (วัคซีน 3 แสนโดส เข็มฉีดยา 3 แสน 8 ร้อยอัน) ซึ่งสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนลาว บรรดาชนเผ่า และยังเป็นสัญลักษณ์ถึงความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์รอบด้าน และเน้นย้ำถึงการเป็นมิตรผู้ร่วมชะตากรรมอย่างแท้จริง

“วัคซีนที่ได้รับชุดนี้เป็นความเรียกร้องต้องการของแพทย์และประชาชนลาว รวมถึงบรรดาชนเผ่าในการป้องกันและสกัดโรคโควิดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ การผลิตวัคซีนของจีนเป็นนิมิตหมายที่สำคัญที่สุดในประชาคมโลก ซึ่งจะส่งผลให้มีการป้องกันการระบาดของโควิด ทั้งสามารถทำให้ประชาคมโลกเข้าถึงวัคซีน ที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยและยุติธรรม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาวกล่าว

ก.พ.นี้มาแน่ “ซิโนแวค” 2 ล้านโดส

ส่วนฝั่งไทยนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาทุกฝ่ายทำงานกันอย่างหนัก วางแผนจัดการป้องกัน โควิด 19 ไปจนถึงจัดตั้ง รพ.สนาม ได้อย่างรวดเร็วและเพียงพอ ขณะที่ จ.สมุทรสาคร ดำเนินมาตรการ Bubble and Seal Factory Quarantine ให้แรงงานต่างด้าวทำงานและกักตัวในโรงงาน

หากพบติดเชื้อก็จะแยกออกมารักษา ขณะนี้สถานการณ์ถือว่าสามารถควบคุมได้ หากแยก จ.สมุทรสาคร ออกมาจะเห็นว่าจังหวัดอื่นๆ พบผู้ติดเชื้อน้อยมาก จึงมีการประกาศมาตรการผ่อนคลาย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. อย่างไรก็ตาม หากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงมากขึ้น สธ. จะเสนอมาตรการผ่อนคลายต่อ ศบค. ให้มากขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละห้วงเวลานั้นด้วย

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนวัคซีน โควิด 19 คาดว่าภายใน ก.พ. จะมีทยอยเข้ามาจาก 2 แห่ง คือ ซิโนแวค ประเทศจีน และแอสตราเซเนกา โดยช่วงต้นที่เข้ามาก่อนจะมาจากซิโนแวค ที่ไทยได้สั่งซื้อไปจำนวน 2 ล้านโดส ออกใบสั่งซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ไปแล้ว ส่วนวัคซีนจากแอสตราเซเนกาที่ผลิตในไทย 26 ล้านโดส ขณะนี้ได้คอนเฟิร์มอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดส

ทั้งนี้ วัคซีนทั้งหมด 63 ล้านโดสในปีนี้ถือว่าเพียงพอ ครอบคลุมประชากร อยู่ในความสามารถให้บริการวัคซีนที่จัดการได้ รัฐบาลมีนโยบายว่าวัคซีนจะต้องปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะต้องฉีดให้กับทุกคนที่มีความเสี่ยงแพร่เชื้อ ไม่ใช่เฉพาะคนไทย ฉะนั้น วัคซีนจะต้องครอบคลุมทุกคนที่พำนักในประเทศไทย