วันที่ 15 มกราคม 2564 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชยพล ดโนทัย หรือเดฟ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2 คณะรัฐศาสตร์ หนึ่งในสมาชิก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เดินทางมาชี้แจงข้อกล่าวหา เนื่องจากถูกแจ้งข้อหา มาตรา 112 คดีเดียวกันกับ นายสิริชัย นาถึง หรือนิว ชัยพล นักศึกษาชั้นปี 1 วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกลางดึก คืนวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำแนวร่วมฯ พร้อมด้วยมวลชนส่วนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ และมีการ์ดอาสา We volunteer หรือ วีโว่ คอยรักษาความปลอดภัย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยืนประจำการณ์รอบบริเวณอาคารสำนักงานตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดความชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการ์ดวีโว่ได้ขึ้นป้าย ระบุข้อความ “ตื่นเถิดตำรวจกล้า ปวงประชาจะคุ้มภัย” ซึ่งเคยปรากฏหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนหน้านี้ โดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ พร้อมกลุ่มวีโว่ ได้เดินทางไปสอบถามความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดกลางดึกคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณกองสลากเก่า ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ขณะจัดกิจกรรมเคาต์ดาวน์กินกุ้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้นำป้ายออก

นายชยพล กล่าวว่า หลังจากมาถึง ก็เข้ามาไม่ได้ ตนจะเข้ามาให้สัมภาษณ์สื่อ ตำรวจก็ผลักมวลชนที่มา ไม่เข้าใจว่าพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่ของประชาชนหรืออย่างไร ทำไมเข้าไปไม่ได้ ทำร้ายความรู้สึกกันเห็นๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมมากล่าวหากันได้ดื้อๆ ส่วนตัวไม่มีความจำเป็นต้องกลับมาก็ต้องกลับมา ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตราบใดที่ยัดคดี จะงัดเครื่องเสียงกับลำโพงให้ ความสงบประชาชนสงบอบยู่แล้ว ไม่สงบก็เพราะตำรวจ ไม่จับผู้ร้าย มาจับนักศึกษา แค่จะมาให้กำลังใจกัน ที่นี่เขตประชาชน เอาตำรวจออกไปก่อน ทำไมแสดงป้ายนี้ไม่ได้

“ผมถามมาหลายรอบแล้ว ตำรวจกรูกันจะไปเอาป้ายออก มันเลยวุ่นวาย ป้ายมันไม่มีแขนไม่มีขา เกียรติศักดิ์ของตำรวจ คุณมีลูก มีเมียไหม ถ้ามี ไปถาม ลูกคุณอาจจะมาม็อบก็ได้ ใครจะไปรู้” นายพริษฐ์กล่าว

ต่อมา นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ามาในพื้นที่เพื่อสอบถาม พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ว่าหมายจับใคร เลขที่ 15/2564 ซึ่งข้อหา คือการกระทำความผิดร่วมกัน ถ้าจะให้ความเป็นธรรม พนักงานต้องไปเพิกถอนหมาย เพราะหมายจับยังมีผลอยู่ เรามีหลักฐานชัดเจนว่า นายชยพลไม่ได้อยู่ในที่กล่าวหา ไปเพิกถอนหมาย ถูกอย่างจะจบได้ คืนความเป็นธรรมให้เขา

ด้าน พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ กล่าวชี้แจงว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งหรือแจ้งข้อกล่าวหา และยังไม่มีหมายจับ วันนี้อย่างมากแค่สอบพยาน แต่ในส่วนของคดี ไม่สามารถพูดได้ เพราะไม่ได้มีหมายเรียกให้มา

นายนรเศรษฐ์กล่าวว่า นายชยพลต้องมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ ถ้าท่านยืนยันว่าไม่ได้ออกหมายจับ หมายค้น ต้องเอาหลักฐานมายืนยัน

“ถ้าเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด ต้องไปยื่นคำร้องเพิกถอนหมายจับ แต่ต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีหลักประกันว่าจะถูกบุกจับอีกหรือไม่ อย่างไร ซึ่งวันที่ 9-10 มกราคม 2564 มีหลักฐานชัดเจนว่าอยู่หาดใหญ่ เป้าหมายคือเราต้องการเรียกร้องให้มีการออกคำร้องเพิกถอนหมายจับ ซึ่งคาดว่าหมายน่าจะลงวันที่ 13 มกราคม เมื่อดูจากหมายที่ค้น ไปค้นนายสิริชัย ระบุว่า ให้ไปค้นบุคคลที่ถูกออกหมายจับ คือข้อมูลที่เรามี แต่พนักงานจะชี้แจงอย่างไร ต้องมีหลักฐานยืนยัน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาในอนาคต ต้องถามเจ้าที่ว่า ทำไมถึงได้มีการดำเนินคดีกับบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ”

ต่อมา เวลา 11.30 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ย้ายไปจัดกิจกรรม ริมฟุตปาธหน้า สภ.คลองหลวง จากนั้น นายชยพลจูงแพะจำนวน 2 ตัว เดินมายังด้านหน้า สภ. พร้อม น.ส.ปนัสยา และนายพริษฐ์

โดย นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า “เอาแพะมาให้ 3 ตัว รวมเดฟด้วย” พร้อมเปิดเพลงมาร์ชราษฎร

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตั้งแถวอย่างหนาแน่น เพื่อจับแพะของเราเป็นที่เรียบร้อย ดูสิว่าคุณจะห้ามเข้ามาอีกไหม คุณไม่ให้เอาเข้าไปก็มาจับแพะตรงนี้ ดูสิตำรวจ เขาจ้างมาจับโจร มาจับแพะ จับป้าย จับนักศึกษา จับหนังสือ จับได้ทุกอย่าง ยกเว้นคนร้าย

นายพริษฐ์กล่าวว่า ขอเรียนถามผู้กำกับว่า ในฐานะที่คุมคลองหลวง ผมอยู่ที่นี่มานานกว่าท่าน ท่านรู้หรือยัง บ่อนคลองหลวงอยู่ตรงไหน ถ้าไม่รู้ จะชี้เป้าให้ แลกกัน เลิกยัดคดี เลิกจับแพะเสียที ไปทำหน้าที่ที่สมควร ไปจับบ่อนเชียงราย จับโจร นักศึกษาโดนชิงปล้นรายวัน ประสานงานมาทีไรไม่เคยได้คำตอบว่าจะทำให้ชีวิต นักศึกษาดีขึ้นอย่างไร กลายเป็นว่านักศึกษา มธ.ต้องระแวงตำรวจกว่าระแวงโจร

“ไปตั้งบูธเลย คุณเชื่อมั่นในตำรวจขนาดไหน ไม่ถึงครึ่ง ลองทำดู ด้วยพฤติกรรมทำตามนาย แล้วนายมารับหน้าแทนไหม ก็ไม่ แล้วจะทำตามไปทำไม ถ้าคุณไม่พอใจ เห็นพ้องต้องกันว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นเรื่องเลวร้าย วันไหนที่รู้ว่าจะต้องทำ ก็ลาป่วยไปซะ จะได้ไม่ต้องมาปรากฏตัวซีนที่อุบาทย์แบบนี้

“ท่านผู้กำกับเรามีของขวัญมาฝาก เราเอาแพะมาฝาก อยากทราบว่า ท่านอยากเลี้ยงแพะไว้ที่ สภ.ไหม แต่ดูแล้วคงไม่ต้องเอาจากเราหรอก จับรายวันเต็มโรงพักไปหมด” นายพริษฐ์กล่าว

จากนั้น เวลา 11.40 น. นายชยพล หรือเดฟ กล่าวว่า ณ วันนี้ ที่ต้องมา สภ.คลองหลวง เป็นเพราะภายหลังมีการจับกุมนายสิริชัย หรือนิว ได้ปรากฎในหมายค้นของนิวว่าเดฟเป็นบุคคลผู้ถูกออกหมายจับ ในการร่วมกระทำความผิด ขี่จักรยานยนต์ไปพ่นสเปรย์ที่รูป ซึ่งวันนี้มีข้อเท็จจริงจะมายืนยันตำรวจว่าที่ออกหมายโดยยังไม่รู้ว่าก่อเหตุหรือไม่ ณ วันเกิดเหตุ อยู่ที่บ้านเกิด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นไปไม่ได้เลยว่าจะเดินทางด้วยความเร็วขนาดไหนไปพ่นสี แล้วกลับไปนอนที่ มธ. ซึ่งมีหลักฐานตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม-14 มกราคม ว่าไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ มีหลักฐานชัดเจน ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกหมายจับผม

ด้าน นายนรเศรษฐ์ ทนายความ กล่าวว่า สาเหตุที่มาวันนี้มีพยานหลักฐาน 2 ส่วน คือในหมายค้นที่ได้ไปค้นนายสิริชัย ระบุว่า ให้ค้นบุคคลที่ถูกออกหมายจับ ได้แก่ นายสิริชัย และนายชยพล คือหมายเลข 14/2564 และ 15/2564 ซึ่งหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้ทำนั้น ระบุลงไปชัดเจนว่าทั้งสองได้ร่วมกันขับขี่รถจักรยานยนต์ไปพ่นสเปรย์ จึงเป็นการกล่าวหาโดยไม่ได้อยู่ ณ ที่เกิดเหตุ

“หลักฐานมีทั้งการสั่งแกร็บ และหลักฐานว่าอยู่หาดใหญ่ เพราะนิวเพิ่งเดินทางมาเมื่อคืน เราจึงมาเรียกร้องให้ พนักงานสอบสวนที่หากพิจราณาแล้วว่าเดฟไม่ได้มีส่วนร่วมกระทำความผิด ต้องไปยื่นคำร้องให้เพิกถอนหมายจับ ตราบใดที่ไม่มีการเพิกถอน ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะถูกจับ หรือควบคุมตัว” นายนรเศรษฐ์กล่าว