เหยื่อก่อการร้ายโลกลด แต่ภัยกลุ่มขวาจัดพุ่ง

รายงานดัชนีก่อการร้ายโลกปี 2020 จัดทำโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (ไออีพี) เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายโจมตีในปี 2019 มีจำนวนลดลงเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยมีอยู่ที่ 13,826 ราย ลดลง 15 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้าและลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายมากที่สุด โดยความขัดแย้งยังคงเป็นแรงผลักสำคัญที่ทำให้เกิดการก่อการร้าย

อย่างไรก็ดีโลกได้เห็นเหตุก่อการร้ายจากฝีมือกลุ่มหัวขวาจัดในชาติตะวันตกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และ โอเชียเนีย น่าจะมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มหัวขวาจัดในปี 2019 จำนวน 89 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 250 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2014

รายงานระบุว่า อัตราผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายที่ลดลงมากที่สุดคือในอัฟกานิสถานและไนจีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้ง ทว่าทั้งสองชาติยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากภัยก่อการร้ายมากกว่า 1,000 รายในปีดังกล่าว แต่แม้ผลกระทบโดยรวมจากการก่อการร้ายโจมตีทั่วโลกจะมีลดลง แต่การก่อกรร้ายยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงในหลายประเทศ ที่สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงอย่างมากในประเทศบูร์กินาฟาโซ ศรีลังกา โมซัมบิก มาลี และ ไนเจอร์ ขณะที่นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ที่ภูมิภาคเอเชียใต้เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภัยก่อการร้าย

รายงานของไออีพีระบุอีกว่า ทาลิบัน กลุ่มติดอาวุธในอัฟกานิสถาน ยังคงเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่อันตรายที่สุดในโลกในปี 2019 ส่วนกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิม มีความแข็งแกร่งลดน้อยถอยลงไป แต่ก็ยังมีเครือข่ายไอเอสเคลื่อนไหวอยู่ โดยเฉพาะในภูมิภาคซับ-ซาฮาราของแอฟริกา