‘อนุชา’ กั๊ก ผ่านร่างไอลอว์ โยนสภาพิจารณา ยัน รบ.รับร่าง 1-2 วอน อย่าตั้งธงกดดันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

‘อนุชา’ กั๊ก ผ่านร่างไอลอว์ โยนสภาพิจารณา ยัน รัฐบาลรับร่าง 1-2 วอน อย่าตั้งธงกดดันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อถก 2 วันไร้เหตุรุนแรง

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ว่า พรรค พปชร.ยืนยันว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยให้ผ่านในวาระรับหลักการ และเชื่อว่าน่าจะเรียบร้อยดี ส่วนจะลงมติฉบับไหนอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน โดยน่าจะรับหลักการในร่างที่หนึ่งและร่างที่สอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ร่างฉบับภาคประชาชนของไอลอว์จะไม่รับใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ต้องไปฟังถึงเหตุผลกันในรัฐสภาว่าใครมีเหตุผลอย่างไร และต้องมองไปถึงข้างหน้าด้วย เพราะร่างฉบับของไอลอว์ยังไม่เคยนำเข้ามาพิจารณาในรัฐสภา จึงมีแง่มุมรายละเอียดที่ต้องอภิปรายถกเถียงกันมากพอสมควร

เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมกดดันให้พิจารณาร่างฉบับไอลอว์ นายอนุชากล่าวว่า เป็นธรรมดา ที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีธงอยู่แล้ว ว่าบ้านเมืองจะต้องไปหนึ่ง สอง และสาม ซึ่งก็เป็นธงของฝ่ายค้านด้วยที่พยายามพูดอย่างมีธง และทุกครั้งที่พูดคุยก็ไม่ได้จบอย่างที่คุยกัน ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีความเห็นไม่ตรงกัน การที่ตั้งธงมาก็ไม่ชอบตามระบบและมาบังคับข่มขู่ ขู่เข็ญ ไม่ใช่ในระบอบที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นอย่างนี้ไปตลอด ทุกนายกรัฐมนตรี ทุกรัฐบาลก็คงเป็นอย่างนี้ไปตลอด ไม่มีวันสิ้นสุด วนเวียนในระบอบแบบนี้ จึงขอวิงวอนถ้าอยากจะผ่านจุดนี้ไปให้ได้ อย่าตั้งธงที่เกินเลยกว่าที่ทั้งสองฝ่ายจะรับกันได้ ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดว่าอย่างไร แล้วจะต้องทำตามนั้น ถ้าคุยกันแล้วหาจุดต่างที่ลงตัว คิดว่าบ้านเมืองจะเดินไปได้ โดยจะมีรัฐธรรมนูญที่ได้รับการแก้ไขและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในระดับที่ส่วนรวมของทั้งประเทศพอใจ แต่ถ้าเป็นธงของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่มั่นใจว่าจะได้รับการแก้ไขอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าสถานการณ์หน้ารัฐสภาจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า เรียบร้อยมาตลอด ไม่มีอะไรที่รุนแรง เพราะเป็นการกดดันเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ได้ตามจุดหมายที่ฝั่งตัวเองต้องการ ตามที่เห็นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลก็พยายามหาวิธีที่นุ่มนวล ไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และอยากเห็นผู้ชุมนุม ชุมนุมโดยสันติและสงบ อย่ากระทบกระทั่งกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะปิดล้อมรัฐสภา นายอนุชากล่าวว่า ตนคิดว่าทุกฝ่ายคงจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ต้องว่าตามสถานการณ์ว่าจะเข้ารัฐสภาได้หรือไม่ หรือเข้าอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า เรื่องพวกนี้ตนไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะผ่านประสบการณ์เรื่องต่างๆ มาพอสมควร และเชื่อว่าสังคมเราก็มีสิ่งที่ดีอยู่ส่วนหนึ่ง คิดว่าบ้านเมืองเราคงไม่เกิดอะไรรุนแรง ประชาชนทั้งประเทศอยากเห็นความสงบสุข ซึ่งตนก็ไม่อยากเห็นและคิดว่าคงไม่เกิดขณะที่ ส.ส.และ ส.ว. ต้องเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ถึงที่สุด เพื่อให้กระบวนการเดินไปได้ หากเราไม่ทำหน้าที่สิ่งที่ประชาชนรออยู่ก็คงไม่ประสบความสำเร็จ