นายกฯถก กอ.รมน. เล็งปรับลดกำลังกว่า 3,000 นายพื้นที่ 3 จว. ชายแดนใต้

นายกฯ ถก กอ.รมน. เล็งถอน พรก.ฉุกเฉิน ใช้ พรบ.ความมั่นคง เพิ่มอีก 1 อำเภอ ใน 3 จชต. พร้อมปรับลดกำลังกว่า 3 พันนาย

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วม 22 คน มีวาระพิจารณา 3 เรื่อง และเรื่องเพื่อทราบ 4 เรื่อง

มีรายงานข่าวว่า การประชุมที่สำคัญเป็นในส่วนของปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งเป็นการประชุมตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคง ปี 2551 ว่า แผนงานที่ปฏิบัติต้องผ่านขบวนการในการแนะนำความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการก่อน ซึ่งเรื่องการพิจารณาเป็นแผนการปฏิบัติในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และโครงสร้างกำลังพลของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าที่จะมีการปรับลดกำลังลงมาประมาณ 3 พันกว่าอัตรา ซึ่งกำลังหลักจะเป็นของทหารที่ปรับลดลงมา เพราะสถานการณ์ปี 2563 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงปรับลดกำลังลงมา นอกจากนี้ในบางพื้นที่สามารถปรับการใช้อำนาจกฎหมายที่มีอยู่ คือให้อยู่ใน พ.ร.บ.ความมั่นคง เข้ามาเป็นกฎหมายดูแล จากเดิมที่มี 9 อำเภอ คือ อ.จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย แม่ลาน เบตง สุไหงโก-ลก สุคิรินทร์ และอำเภอล่าสุดคือ อ.ไม้แก่น

เพิ่มอีก 1 อำเภอ จาก 33 อำเภอที่เป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ปรับลงมา 10 อำเภอ เหลือ 23 อำเภอ ที่ยังคงใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงอยู่

อย่างไรก็ตาม การประชุมวันนี้จะนำสรุปเข้าที่ประชุมให้คณะกรรมการเห็นชอบ นอกจากนี้มีการประชุมบูรณาการร่วมกันในพื้นที่ทางน้ำ จากการตั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. โดยมีการแบ่งหน้าที่ขอบเขตอย่างชัดเจน

จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเข้าไปยังห้องประชุมใหญ่เพื่อรับฟังผลการปฎิบัติงานในรอบปี 2563 จากนั้นนายกฯจะขึ้นไปชี้แจงและเน้นย้ำในการปฏิบัติงานในกรอบงานปี 2564 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ มีผู้ร่วมงาน คือ ครม. ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด รอง ผอ.รมน. ฝ่ายทหาร กำลังพลส่งนกลาง รวม 282 คน ที่เข้าร่วมประชุม