“นิด้าโพล-สวนดุสิตโพล” เผยความนิยมรัฐบาล-พรรคไหนนำโด่ง มองทางออกขัดแย้งยังไง

นิด้าโพล ผลโพลกว่าครึ่ง ยังมองไม่เห็นใครเหมาะนั่งนายกฯ ‘บิ๊กตู่’เหมาะแค่ ร้อยละ 18.64  เผยคะแนนนิยม พท.-ก้าวไกลแซง พปชร. ด้านสวนดุสิตโพล ระบุ คนอยากให้หาทางออกขัดแย้ง โดยรัฐบาลรับฟังความเห็นอย่างจริงใจ

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3”

ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 – 23 กันยายน 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,527 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล”

สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 54.13 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 18.64 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ เป็นคนจริงจังกับการทำงาน ทำงานตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ บ้านเมืองสงบไม่วุ่นวาย ช่วยเหลือประชาชนได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ดำรงตำแหน่งต่อไป

อันดับ 3 ร้อยละ 10.57 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ มีประสบการณ์การทำงาน บริหารงานที่ผ่านมาได้ดี พูดจริง ทำจริง และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อันดับ 4 ร้อยละ 5.70 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ อยากได้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ เป็นคนที่มีความคิดที่ทันสมัย มองการณ์ไกล และชื่นชอบนโยบายพรรค อันดับ 5 ร้อยละ 3.92 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริง ทำจริง มีความซื่อสัตย์ และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว

อันดับ 6 ร้อยละ 1.54 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะ มีวิสัยทัศน์ที่ดี มีความเป็นผู้นำ มีความสามารถทางด้านเศษฐกิจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า มีความเข้าใจการเมืองทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ อันดับ 7 ร้อยละ 1.07 ระบุว่าเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ชอบผลงาน ของพรรคเพื่อไทย ชื่นชอบนโยบายด้านเศรษฐกิจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ร้อยละ 4.00 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่), นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์), นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ), นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา), นายชวน หลีกภัย, นายอานันท์ ปันยารชุน, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) และร้อยละ 0.43 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2 เดือนมิถุนายน 2563 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายกรณ์ จาติกวณิช และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 41.59 ระบุว่าเป็น ไม่สนับสนุน พรรคการเมืองใดเลย อันดับ 2 ร้อยละ 19.39 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.70 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 12.39 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 5 ร้อยละ 7.44 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.58 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 0.79 ระบุว่าเป็น พรรคกล้า อันดับ 9 ร้อยละ 0.59 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อชาติ อันดับ 10 ร้อยละ 0.55 ระบุว่าเป็น ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 11 ร้อยละ 0.36 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา อันดับ 12 ร้อยละ 0.28 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนา และพรรคประชาชาติ ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 13 ร้อยละ 0.24 ระบุว่าเป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย และอันดับ 14 ร้อยละ 0.12 ระบุว่าเป็น พรรคเศรษฐกิจใหม่

และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ คะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2 เดือนมิถุนายน 2563 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคกล้า, พรรคเพื่อชาติ, พรรคเศรษฐกิจใหม่ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย, พรรคชาติพัฒนา, พรรคประชาชาติ, พรรครวมพลังประชาชาติไทย และไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และผู้ที่ระบุว่า พรรคชาติไทยพัฒนา มีสัดส่วนเท่าเดิม

ขณะที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,263 คน กรณี “ระดมสมองหาทางออกความขัดแย้ง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2563

เมื่อถามถึงประชาชนคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องช่วยกันหาทางออกของความขัดแย้ง พบว่า ร้อยละ 91.87 ระบุ ถึงเวลาแล้ว ขณะร้อยละ 8.13 ระบุ ยังไม่ถึงเวลา

เมื่อถามถึงทางออกของความขัดแย้ง ณ วันนี้ พบว่า ร้อยละ 88.44 ระบุ รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นอย่างจริงใจ รองลงมาร้อยละ 87.57 ระบุ ไม่ใช้ความรุนแรง ร้อยละ 82.03 ระบุ ไม่สองมาตรฐาน ร้อยละ 74.19 ระบุ จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ ร้อยละ 69.36 ระบุ ถอยคนละก้าว

ทั้งนี้เมื่อถามว่าใครควรจะเป็นผู้นำในการหาทางออก พบว่า ร้อยละ 27.40 ระบุ แกนนำ ตัวแทน ผู้นำกลุ่มต่าง ๆ รองลงมาร้อยละ 26.77 ระบุ นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 24.37 ระบุ ภาคประชาชน ร้อยละ 12.81 ระบุ ภาครัฐ ร้อยละ 8.65 ระบุ นักเรียน นักศึกษา เยาวนคนรุ่นใหม่

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงคาดหวังของประชาชน ต่อความสำเร็จในการหาทางออก พบว่า ร้อยละ 75.12 ระบุ น่าจะสำเร็จ ขณะ ร้อยละ 24.88 ระบุ น่าจะไม่สำเร็จ