ซีเอ็นเอ็น รายงานเมื่อวานนี้ (8 สิงหาคม 2563) ว่าประชาชนเลบานอนลุกฮือประท้วงรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างดุเดือดหลายชั่วโมง เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ส.ค. หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดลูกยักษ์ทำลายล้างท่าเรือกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 ส.ค. มีผู้เสียชีวิตเกือบ 160 ราย และบาดเจ็บเกิน 6,000 คน

การปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนตำรวจเสียชีวิต 1 ราย ท่ามกลางความโกลาหล ผู้ประท้วงบุกทำลายข้าวของภายในอาคารราชการหลายแห่ง รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ส่วนอาคารสมาคมธนาคารถูกม็อบบุกจุดไฟเผา ฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางยิงเข้าใส่เพื่อควบคุมฝูงชน

ความโกรธแค้นของประชาชนต่อรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพและเสถียรภาพ รวมถึงต่อบรรดานักการเมืองอภิสิทธิชน สะสมมาตั้งแต่วิกฤตการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจที่ประเทศเข้าใกล้ภาวะล้มละลาย บ้านเมืองข้าวยากหมากแพงจนเดือดร้อนไปทั่วทุกสารทิศ

เมื่อเหตุระเบิดเผยให้เห็นถึงความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยให้มีสารเคมีแอมโมเนียมไนเตรต ปริมาณเกินสองพันตันตกค้างอยู่ที่ท่าเรือมานาน 6 ปี ทั้งที่ได้รับคำเตือนหลายครั้งแล้ว ยิ่งทำให้ประชาชนสุดจะกลั้นความอดทนต่อไปได้

“ลาออกไปหรือจะถูกแขวนคอ” เป็นป้ายผ้าของผู้ประท้วง ที่ชุมนุมกันบริเวณจัตุรัสกลางกรุง และอีกส่วนชุมนุมตลอดสะพานนอกท่าเรือที่เกิดเหตุ

จากนั้นหลายชั่วโมง นายฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ประกาศจะขยับการจัดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น โดยรัฐบาลตนจะทำหน้าที่ต่อไปอีก 2 เดือนจนกว่าพรรคการเมืองหลักจะบรรลุข้อตกลงกันได้