หน่วยไซเบอร์อังกฤษเผย แฮกเกอร์รัสเซียพยายามขโมยงานวิจัยวัคซีนโควิด

วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอังกฤษหรือ เอ็นซีเอสซี ได้แถลงเมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นว่า พบกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลรัสเซียพยายามจารกรรมข้อมูลงานวิจัยวัคซีนและการรักษาโควิด-19 จากสถาบันการศึกษาและบริษัทเวชภัณฑ์ทั่วโลก ที่ทุ่มทรัพยากรแข่งกับเวลาในการคิดค้นวัคซีนเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก

แถลงการณ์ร่วมกันระหว่างอังกฤษ สหรัฐฯและแคนาดา ระบุเชื่อว่าการโจมตีครั้งนี้ เป็นฝีมือของแฮกเกอร์ที่ถูกเรียกกว่า กลุ่ม เอพีที29 หรือรู้จักกันในชื่อเล่น “Cozy Bear” ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการจารกรรมบนโลกไซเบอร์ของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย

นายพอล ชิเชสเตอร์ ผู้อำนวยการปฏิบัติการของเอ็นซีเอสซีกล่าวว่า เราขอประณามการโจมตีที่น่ารังเกียจที่สุดกับคนที่ต้องทุ่มเทในการต่อสู้กับการระบาดของโคโรน่าไวรัส

ต่อมาสำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซีย ยกคำกล่าวของดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียว่า รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลอังกฤษ เพราะขาดหลักฐานน่าเชื่อถือเพื่อหนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว

ขณะที่ โดมินิค ราอับ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้อย่างยิ่งต่อการกระทำของหน่วยข่่าวกรองรัสเซียในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ โดยกล่าวว่า ขณะที่อังกฤษและชาติพันธมิตรต่างทำงานหนักในการคิดค้นวัคซีนและปกป้องสุขภาพโลก ก็ยังมีคนอื่นที่แสวงหาผลประโยชน์แก่ตัวเองด้วยพฤติกรรมแบบไม่ยั้งคิด

เอ็นซีเอสซียังระบุว่า แฮกเกอร์กลุ่มนี้ยังคงโจมตีต่อไปและใช้เครื่องมือและเทคนิคที่หลากหลายรวมถึง การโจมตีแบบพุ่งเป้าผ่านอีเมล์หรือ Spear-phishing และ ปล่อยมัลแวร์

“เอพีที29 ยังคงมีแนวโน้มพุ่งเป้าไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 พร้อมกับหากคำตอบเพิ่มเติมต่อคำถามข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใหญ่” แถลงการณ์ ระบุ

นอกจากนี้ ศูนย์บัญชาการไซเบอร์ของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ข้อมูลเชิงเทคนิคว่า ได้มีเครื่องมือจารกรรมถูกใช้งานโดยแฮกเกอร์รัสเซีย ภายใต้รหัส WELLMAIL, SOREFANG และ WELLMESS โดยปรากฎหลายกรณีว่า WELLMESS ถูกพบเข้าในบริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐฯหลายแห่ง โดยเครื่องมือนี้จะเปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถได้ตัวเข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่มีการป้องกันจากระยะไกลแบบเหมือนล่องหนได้

ก่อนหน้านี้ อังกฤษและสหรัฐฯ ได้กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เครือข่ายแฮกเกอร์กำลังพุ่งเป้ามายังองค์กรทั้งระดับประเทศและระหว่างประเทศที่รับผิดชอบในการระบาดใหญ่ แต่การโจมตีหลายครั้งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ระบุเจาะจงว่ามีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซีย