เพื่อชาติจี้ รัฐบาลติดตามผู้ลี้ภัยการเมืองสูญหายยุค คสช.ในประเทศเพื่อนบ้านอีก 9 คน

‘โฆษกเพื่อชาติ’ จี้ รบ.แก้ปัญหาความขัดแย้ง-ติดตามและเผยแพร่ข้อเท็จจริง ตามหาความยุติธรรมให้ทุกกรณี ปชช.ที่สูญหาย

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ (พช.) แถลงการณ์ กรณีรัฐบาลเพิกเฉยต่อประชาชนที่คิดต่างจากรัฐบาลสูญหาย 9 คน ในรอบ 6 ปี ว่าถ้ารัฐบาลที่มาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนทั้งชาติอย่างแท้จริง ต้องติดตามและเผยแพร่ข้อเท็จจริง ตามหาความยุติธรรมให้ทุกกรณี ไม่ใช่เมินเฉยต่อชีวิตประชาชนแต่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจตนเอง

น.ส.เกศปรียากล่าวว่า 6 ปีหลังรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เผยแพร่รายงานระบุว่า มีผู้ถูกผลักดันให้ลี้ภัยจากสถานการณ์ทางการเมืองและการไล่ล่ากวาดล้างที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 104 ราย ภายใต้ประกาศและคำสั่ง คสช. ในจำนวนผู้ลี้ภัยเหล่านี้บีบีซีไทยได้รวบรวมว่ามี “ผู้ลี้ภัย” อย่างน้อย 9 คน กลายเป็น “ผู้สูญหาย” จนถึงปัจจุบัน รายชื่อบุคคลที่อาจถูกบังคับให้สูญหาย 9 คน 1.นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา หายตัวไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 2.นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง” ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนพฤษภาคม 2562 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ เวียดนาม 3.นายสยาม ธีรวุฒิ หรือ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนพฤษภาคม 2562 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ เวียดนาม 4.นายกฤษณะ ทัพไทย หรือ “สหายยังบลัด” ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนพฤษภาคม 2562 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ เวียดนาม 5.นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนธันวาคม 2561 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ ลาว 6.นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ “สหายภูชนะ”

ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนธันวาคม 2561 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ ลาว 7.นายไกรเดช ลือเลิศ หรือ “สหายกาสะลอง” ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนธันวาคม 2561 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ ลาว 8.นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” หรือ “สหายหมาน้อย” ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนกรกฎาคม 2560 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ ลาว และ 9.นายอิทธิพล สุขแป้น หรือ “ดีเจซุนโฮ” หรือ “ดีเจเบียร์” ช่วงเวลาที่หายตัวไปคือเดือนกรกฎาคม 2559 ประเทศที่พำนักอยู่ก่อนหายตัวไปคือ ลาว

น.ส.เกศปรียากล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คงไม่ลืมคำพูดตนเองที่ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งเมื่อปี 2557 แต่การที่ประชาชนฝ่ายที่คิดต่างจาก คสช.สูญหายไปแล้ว 9 ราย แต่รัฐบาลเพิกเฉย เป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้มากขึ้นด้วยความรู้สึกถูกกดขี่รังแกจากอำนาจรัฐ ถ้าต้องการเป็นรัฐบาลที่แก้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนทั้งชาติจริงอย่างที่เคยกล่าวไว้ ต้องติดตามและเผยแพร่ข้อเท็จจริง ตามหาความยุติธรรมให้ทุกกรณีของประชาชนที่สูญหาย แต่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจตนเองเช่นหกปีที่ผ่านมา รวมถึงกรณีนายวันเฉลิม ล่าสุดด้วย ถ้าตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2563 รัฐบาลประสานไปยังประเทศกัมพูชา อาจจะได้ทราบเบาะแสที่หายตัวไป ไม่ใช่รัฐบาลมีท่าทีเมินเฉยต่อการถูกบังคับให้ชีวิตประชาชนคิดต่างสูญหาย รอจนเกิดเป็นกระแสสังคม 4 วันถึงเริ่มมาติดต่อประสานงาน ท่าทีแบบนี้เป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งให้เพิ่มมากขึ้น


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่