“ประยุทธ์”อัดเทปกล่าวถ้อยแถลงเวทีการเงินนิวยอร์ก แนะ 3 ประเด็นหลักฟื้นฟูวิกฤตโควิด

“ประยุทธ์” กล่าวถ้อยแถลงเวทีการเงินเพื่อการพัฒนาในยุคโควิด-19 เผยแพร่ที่นครนิวยอร์ก “ย้ำ”โลกต้องปรับตัวต่อ new normal แนะ 3 ประเด็นหลักฟื้นฟูวิกฤติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหาของคำกล่าวถ้อยแถลงในกิจกรรม High-Level Event on Financing for Development in the Era of COVID-19 and Beyond(การเงินเพื่อการพัฒนาในยุคโควิด-19) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม บันทึกเทปไว้ เพื่อเผยแพร่ที่ นครนิยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามคำเชิญนายกฯแคนาดา นายกฯจาไมกา และเลขาธิการสหประชาชาติ ที่จัดประชุมทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ต โดยเทปถ้อยแถลงดังกล่าวใช้เวบาประมาณ 3 นาที ซึ่งเผยแพร่ในเวลา 10.17น.(ตามเวลาท้องถิ่นที่นครนิวยอร์ก ซึ่งตรงกับเวลา 21.17 น.ของประเทศไทย)วันที่ 29 พ.ค.

นายกรัฐมนตรี ใช้โอกาสนี้กล่าวถึงความร่วมมือ ว่า โลกจะต้องปรับตัวต่อ new normal และถึงเวลาแล้วที่ทุกประเทศจะต้องร่วมมือกันทั้งเรื่องความมั่นคงทางสุขภาพ และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งนายกฯเสนอ 3 ประเด็นที่สำคัญต่อการฟื้นตัวจากวิกฤติครั้งนี้ ประกอบคือ 1.การจัดสรรงบประมาณด้านสาธารณสุขอย่างเหมาะสม ให้มีสาธารณสุขที่เข้มแข็งและมีหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า

2.เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจต้องยึดมั่นในระบบการค้า พหุภาคี ที่เปิดกว้างเพื่ออำนวยให้การค้าการลงทุนระหว่างประเทศเดินหน้าต่อไป และจะต้องมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หยุดชะงักไป โดยจะต้องมีการฟื้นฟูปรับเปลี่ยนธุรกิจ เพื่อฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้และให้มีการเชื่อมโยงระหว่างกัน ในการสร้างชุมชนและเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง และหวังว่าทางองค์การระหว่างประเทศ จะมีเป็นปัจจัยรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและการเงิน และ3.วิกฤตินี้เป็นจะเป็นโอกาสวางแผนฟื้นตัวเศรษกิจได้อย่างยั่งยืน เป็นการรองรับแนวทางปกติใหม่หรือnew normal เป็นการดูแลการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าการลดภาวะโลกร้อน กำจัดขยะในทะเล โดยมาตรการนี้จะได้ผลต้องได้รับความไว้วางใจและความร่วมมือจากประชาชน

“ในส่วนประเทศไทยเอง ขอบคุณพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างดียิ่ง รัฐบาลได้สื่อสารทำความเข้าใจทุกวัน เพื่อวางมาตรการเตรียมรับมือกับวิกฤตินี้ สุดท้ายนายกฯขอบคุณนายกฯแคนดานา นายกฯจาไมกา และเลขาธิการสหประชาชาติที่จัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อที่เราจะได้มาหาทางร่วมกันในการรับมือและส่งเสริมให้เกิดการฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”