วันที่ 28 เมษายน 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ได้เปิดเผยว่า นายหยวน ชวี่หมิง ศาสตราจารย์แห่งสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความปลอดภัยทางชีวะแห่งชาติของจีน ได้ออกมาตอบโต้ถึงประเด็นเกี่ยวกับอุบัติการณ์แรกเริ่มของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายเป็นภัยคุกคามระดับโลก ซึ่งรวมถึงเรื่องที่เป็นทฤษฎีสมคบคิดว่าเชื้อไวรัสรั่วจากห้องเก็บตัวอย่างเชื้อภายในศูนย์วิจัยในเมืองอู่ฮั่นของจีนและเป็นจุดแรกที่พบผู้ติดเชื้อว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ เป็นข้อกล่าวอ้างที่ประสงค์ร้าย และขัดแย้งกับหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด

“ศูนย์วิจัยไม่มีเจตนาหรือความสามารถในการออกแบบหรือสร้างเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไม่เพียงแค่นี้ ยังไม่มีข้อมูลใดที่บอกได้ว่า โครงสร้างพันธุกรรมของ เชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์นี้ เกิดจากการทำขึ้นโดยมนุษย์” นายหยวน กล่าว

สำหรับทฤษฎีสมคบคิดว่าเชื้อไวรัสรั่วจากห้องวิจัยนี้ ได้ลุกลามเป็นวงกว้างจากรายงานวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีอินเดีย โดยอ้างว่าโครงสร้างโปรตีนในโคโรน่าไวรัสมีลักษะคล้ายคลึงอย่างน่าอัศจรรย์กับเชื้อเอชไอวี อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์หลายคนมองว่า โคโรน่าไวรัส (SARS-CoV-2) มีต้นกำเนิดในสัตว์ป่าอย่างค้างคาวและตัวลิ่นที่เป็นสายพันธุ์พาหะที่ทำให้กลายพันธุ์และเกิดเป็นเชื้อไวรัสชนิดนี้ขึ้น

แม้นักวิทยาศาสตร์จะมีข้อสรุปว่าโคโรน่าไวรัสมีการวิวัฒน์ตามธรรมชาติ ข้ออ้างเหล่านี้ได้ถูกหยิบยกขึ้น โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้กล่าวเมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังสืบสวนว่าไวรัสชนิดนี้มีจุดเริ่มต้นจากห้องแล็บในอู่ฮั่นหรือไม่

นายหยวนกล่าวว่า กว่า 70%ของเชื้อไวรัสเกิดใหม่ ล้วนมาจากสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ป่า และช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการสัมผัสอย่างใกล้ชิดระหว่างคนและสัตว์ป่า จากปัญหาโลกร้อนและการขยายตัวของกิจกรรมมนุษย์จนรุกล้ำพื้นที่อาศัยของสัตว์ป่า ซึ่งในบรรดาสายพันธุ์โคโรน่าไวรัส 7 ชนิดที่เรารู้จัก มีต้นกำเนิดจากค้างคาว หนูและสัตว์ในพื้นที่

นายหยวนยังกล่าวปฏิเสธทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับ ห้องแล็บทำเชื้อหลุดจากการเก็บตัวอย่างค้างคาวเพื่อนำไปศึกษาวิจัย โดยยืนยันว่า หลักปฏิบัติความปลอดภัยทางชีวภาพของศูนย์วิจัยนั้นดำเนินการเข้มงวด

ก่อนหน้านี้ นายจ้าว หลี่เจี่ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวผ่านทวิตเตอร์ออกมาโจมตีว่า เชื้อโคโรน่าไวรัสมาจากสหรัฐฯและมีการคาดเดากันในโซเชียลมีเดียของจีนว่าเชื้อไวรัสมาที่อู่ฮั่นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬากองทัพโลก อย่างไรก็ตาม นายหยวนไม่ตอบถึงข้ออ้างดังกล่าว แต่กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัส

ทั้งนี้ นายหยวนกล่าวเสริมว่า สถาบันวิจัยแน่วแน่ในความโปร่งใสและพร้อมแบ่งปันข้อมูลที่เข้าถึงได้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสในเวลาที่เหมาะสม โดยหวังอย่างยิ่งว่าทุกคนจะละซึ่งความเอนเอียงและอคติเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งเหตุผลเพื่อวิจัยในการติดตามต้นกำเนิดของเชื้อไวรัส