21 มี.ค.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ(กพศ.)พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังถาโถมใส่ประเทศยามนี้ จะถูกแก้ไขและฟันฝ่าไปได้ต้องใช้หลักการของการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนผนึกกำลังช่วยกันอันเป็นวิถีของการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยความร่วมมือลักษณะนี้จะเกิดขึ้นได้มันต้องได้ผู้นำที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงจึงจะได้รับศรัทธาการยอมรับการเป็นหัวหอกนำพาความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายฝ่าฟันวิกฤติการณ์ไปได้ แต่เมื่อเราหันกลับมามองประเทศไทยในยามนี้ที่เรามีนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจจากประชาธิปไตยภาพลวงตา จึงขัดกับหลักการที่กล่าวมาอย่างสิ้นเชิงทำให้มิอาจสร้างความยอมรับจากทุกภาคส่วนได้ ยิ่งเห็นการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลในยามนี้ด้วยแล้วภาพของการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาช่างเป็นไปอย่างกะท่อนกะแท่นขาดเอกภาพ ไร้ภาวะผู้นำ ไม่ทันการณ์ไม่อาจสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนได้เลย มันจึงเป็นเหตุให้พี่น้องประชาชนต่างมองทางออกของประเทศตรงกันว่า มันต้องโห่ร้องบอกให้นายกรัฐมนตรีคนนี้ลาออกไปก่อนเท่านั้นข้อเสนอของทุกฝ่ายจึงจะไม่ถูกมองข้ามเพราะตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นกับดักและตัวเพิ่มวิกฤติปัญหาของประเทศ

ดังนั้นขณะนี้เราจะเริ่มเห็นปรากฏการณ์เชิงซ้อนการเคลื่อนไหวการขับไล่นายกฯในรูปแบบต่างๆควบคู่ไปพร้อมๆกับวิกฤติการณ์โควิด-19 จนใกล้ถึงจุดเดือดที่นายกฯจะไม่สามารถลากองคาพยพบริหารประเทศต่อไปได้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วเหล่าผู้แทนราษฎรจะมีดวงตาเห็นธรรมพร้อมเคารพและสนองตอบเจตนารมณ์ของประชาชนเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่แสวงหาหนทางให้นายกฯคนนี้หลุดจากตำแหน่งไปและหาคนใหม่เข้ามาแทน แล้วเมื่อนั้นความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าก็จะกลับคืนมาพากันฟันฝ่าวิกฤติการณ์ของประเทศไปจนได้ ปิดตำนานของการสืบทอดอำนาจ