วิโรจน์ ยัน หมอนยางพาราประชารัฐ แพงเวอร์เกิน 1.8 หมื่นล้าน แจกทุนเด็กยากจนดีกว่า

วิโรจน์ ชี้ โครงการหมอนยางพาราประชารัฐ แพงเวอร์เกินจริง จี้ ปชช. ตรวจสอบ หวั่น ไม่เกิดประสิทธิภาพคุ้มค่า เผยนำ 1.8 หมื่นล้าน แจกเด็กยากจนใช้เรียน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ออกมาตั้งข้อสังเกต ที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อจัดทำรายละเอียดโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐ 30 ล้านใบ มูลค่า 18,000 ล้านบาท โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) โดยให้รัฐออกสลากการกุศลนำเงินมาใช้คืน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ซึ่งล่าสุด (23 ธันวาคม) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาโต้ว่าเป็นการกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย ว่า จากข่าวที่บอกว่าตนกล่าวหาเลื่อนลอย ส่วนนี้ คำว่าเลื่อนลอยหมายความว่า ตนพูดโดยไม่มูลใดๆ และสร้างเรื่องขึ้นมา แต่ไม่ใช่แบบนั้นเพราะโครงการหมอนยางพาราประชารัฐ ด้วยงบประมาณ 18,000 ล้านบาท จำนวน 30 ล้านใบ แจกครัวเรือนละ 1 ใบ แล้วต้องยอมรับว่า ไม่มีใครอ่อนวิชาคณิตศาสตร์ เพราะเมื่อเห็นตัวเลข และคำนวนแล้ว จะตกใบละ 600 บาท ซึ่งตนก็นำข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อหลายสำนัก ที่รายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนให้ข่าวด้วยตัวเองว่า ในวันที่ 23 ธันวาคม จะหารือกับกระทรวงการคลัง ซึ่งในวันต่อมานายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ก็ออกมาให้ข่าวต่อว่าอยู่ในช่วงหารือ และยืนยันว่าส่วนของงบประมาณโครงการที่จะใช้นั้นมีเพียงพอ จึงหมายความว่า พร้อมดำเนินการต่อไปใช่หรือไม่ ดังนั้นต้นข่าวที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาจากนิรนาม หรือนาย ก. นาย ข. แต่มาจาก ร.อ.ธรรมนัส และรับลูกโดย นายอุตตม

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกตกใจในฐานะประชาชนที่หารยาวเป็น ตนเห็นว่า หมอนยางพารานี้มีราคาแพง เพราะตนก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้หมอนยางพาราอย่างดี ที่ซื้อทางช้อปปี้ และลาซาด้า ใบละ 250 บาท เมื่อตนไปสอบถามเพื่อนที่รับผลิตหมอนยางพาราแล้ว ก็ทราบว่า หากผลิตหลักพันใบขึ้นไป จะตกราคาใบละประมาณ 100 บาท แต่เป็นไปไม่ได้ที่สั่งผลิต 30 ล้านใบแล้ว ราคาจะอยู่ที่ 600 บาท

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในระหว่างที่กำลังหารือนั้นประชาชนก็ต้องมีการตรวจสอบเพราะปล่อยให้ออกมาไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใครอคติกับใคร ท่านจะเกลียดตน หรือพรรคอนาคตใหม่อย่างไร แต่เราจะไม่ปล่อยให้เอางบ 18,000 ล้านบาทมาผลิตหมอนใบละ 600 บาท แจกประชาชนแบบนี้ไม่ได้

ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส จะดำเนินการแจ้งความกลับกรณีกล่าวใส่ร้ายนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนคิดว่าก็ดี เพราะทุกอย่างจะได้เปิดเผยว่าสรุปแล้วการแจกหมอนมีความจำเป็นขนาดนั้นจริงๆ หรือ ถ้าเราติดตามการทำงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่แจกเงินให้กับเด็กที่ยากจนพิเศษจำนวน 700,000 คน โดยแจกปีการศึกษาละ 3,000 บาทต่อคน ซึ่งไม่มีทางที่จะเพียงพอ ถ้าเรานำเงิน 18,000 ล้านบาทมาให้กับเด็ก 700,000 คนนี้ จะสามารถให้ได้คนละ 25,000 บาทต่อปี ซึ่งเด็กยากจนเหล่านี้จะมีโอกาสได้เข้าถึงการศึกษา มีเงินที่ใช้ในการเรียน และการเดินทาง ได้เดือนละ 2,000 บาท ซึ่งเราช่วยเด็กและสังคมได้มากกว่านั้น คำถามก็คือ การแจกหมอนของรัฐบาลมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด และจะสามารถพยุงราคายางพาราได้จริงหรือไม่ เพราะจากข้อมูลที่ร.อ.ธรรมนัสให้ไว้คือ ใช้น้ำยาง 1.5 แสนตัน แต่ประเทศไทยมีกำลังการผลิตน้ำยางตกปีละประมาณ 5 ล้านตัน ตอนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอโครงการนั้นต้องระบุว่า สามารถพยุงราคายางอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพหรือไม่ เพราะเงินที่นำมาใช้ในการจัดทำโครงการมาจากภาษีประชาชน