มท.1 กำชับช่วงปีใหม่ ดูแลถนนสายรอง ชวนคนไทยทำบุญเสริมมงคลชีวิต

มท.1 กำชับช่วงปีใหม่ ดูแลถนนสายรอง หลั่นยอดตายพุ่ง ยัน ไม่มีการเอื้อขายเครื่องดื่มสุรา ชวนทำบุญเสริมมงคลชีวิต

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงแผน มาตรการความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า แผนดังกล่าวได้เริ่มรณรงค์มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแล้ว ส่วนแผนที่ได้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรีในวันเดียวกันนี้ เป็นช่วง เตรียมการปฏิบัติการระหว่างวันที่ 1 -26 ธันวาคม ส่วนช่วงปฏิบัติการเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 โดยจะมีการบูรณาการการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการและแบ่งพื้นที่ตามสถิติ 3 ปีย้อนหลัง และในระดับพื้นที่จะให้ความสำคัญไปถึงระดับหมู่บ้าน ที่มีการสูญเสียในพื้นที่ในถนนสายรอง ดังนั้นท้องถิ่นทั้งหมดจะเข้ามาร่วมการด้วยกัน

มาตรการต่างๆ คือ การบริหารจัดการ การบังคับใช้กฎหมาย การอำนวยความสะดวก การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ยานพาหนะ โดยจะขอให้มีการงดใช้รถบรรทุกในช่วง 7 วันดังกล่าว ส่วนรถสาธารณะนั้นก็จะได้มีการควบคุม ส่วนรถทั่วไปก็ขอให้ประชาชนการตรวจตราความพร้อมรถของตัวเอง ส่วนบุคคลก็ขอให้ใช้รถใช้ถนนอย่างมีน้ำใจ มีวินัย

นอกจากนี้ได้เป็นย้ำในพื้นที่ไปในเรื่องการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ให้ดูแลเรื่องโป๊ะและคนขับเรือ และในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวก็ต้องดูแลนักท่องเที่ยว

หากพื้นที่ใดมีการขายแอลกอฮอล์ก็จะต้องปิดการขายโดยถูกกฎหมายและได้รับอนุญาต และขายตามเวลา แต่ขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์เรื่องการไม่ให้คนดื่มสุรา แต่ให้ใช้การรณรงค์ทางวัฒนธรรม เช่น ทำชีวิตให้เป็นมงคล สวดมนต์ข้ามปี ใช้เวลากับครอบครัวเข้าวัดทำบุญทำทาน และไม่มีนโยบายที่จะให้จัดงานโดยมีการดื่มสุราเพราะจะเป็นต้นเหตุสำคัญของการสูญเสียทางถนน เจ้าหน้าที่ก็จะต้องเข้มงวดในเรื่องนี้ด้วย หมายความว่าการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องแยกแยะอุบัติเหตุที่เกิดจากคนที่ดื่มสุราและขับรถเร็วซึ่งผิดกฎหมาย และทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย ให้แตกต่างจากอุบัติเหตุอย่างแท้จริง เจ้าหน้าที่จะต้องดูความต่างเรื่องสำนวนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ต่างจังหวัดมีโฆษณาแฝงในการจัดงานของจังหวัดโดยถูกร้องเรียนมาก รมว.มท.กล่าวว่า ที่มีข่าวคือ 2 ที่ คือ จังหวัดนครปฐมนั้นเป็นเรื่องของภาคเอกชนหอการค้าร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งหลาย เพื่อรณรงค์จังหวัด ที่มีศักยภาพทางอาหาร ทั้งโต๊ะจีนและสตรีทฟู้ด เป็นเทศกาลที่มีจุดประสงค์ที่ดี ซึ่งทางจังหวัดรายงานว่าในการแถลงข่าวดังกล่าว มีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ได้ส่งรองผู้ว่าฯไปแทน และในการแถลงข่าวนั้นยืนยันว่าไม่มีเรื่องการรณรงค์เรื่องการดื่มสุรา และภาพที่ออกมาในพื้นที่ยืนยันว่าเป็นเรื่องของน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์

ส่วนที่จังหวัดพังงา เป็นโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว โดยรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปเปิดงานแทน เป็นกิจกรรมรณรงค์เพื่อการท่องเที่ยว ทราบว่าในงานมีดนตรีมีสุราแต่มีการขายไม่ใช่ไปจัดเป็นลานเบียร์ แต่เป็นร้านที่ขายประจำอยู่แล้ว โดยมีการขออนุญาตจากกรมสรรพสามิตถูกต้อง

ยืนยันว่าไม่มีนโยบายการส่งเสริมให้ดื่มสุรา หรือจะเอางานโดยมีเรื่องของสุรามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้กำชับไปแล้ว