ไม่สนฝุ่นพิษ ค่ายรถวิ่งวุ่น3กระทรวงเลื่อนบังคับใช้เครื่องยนต์ยูโร5

ไม่สนฝุ่นพิษ ค่ายรถวิ่งวุ่น3กระทรวงเลื่อนบังคับใช้เครื่องยนต์ยูโร5 ยันไม่ทันปี64 “สนธิรัตน์”เล็งถก”สุริยะ-วราวุธ”หาข้อสรุปเลื่อนไม่เลื่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กลุ่มบริษัทรถยนต์ และกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ที่กระทรวงพลังงาน เพื่อติดตามความพร้อมของบริษัทรถยนต์ และโรงกลั่นน้ำมัน ต่อกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้การผลิตรถยนต์ และคุณภาพน้ำมันของไทย ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ ยูโร 5 ภายในปี 2564 และมาตรฐานฯยูโร 6 ในปี 2565 เพื่อเป็นเครื่องมือหลักในการลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ดูแลสุขภาพคนไทย โดยประเด็นสำคัญที่ทั้งค่ายรถยนต์และโรงกลั่นสะท้อน คือ ยังไม่มีสามารถผลิตรถยนต์ และน้ำมัน ได้ตามกำหนดเวลาดังกล่าว เนื่องจากติดปัญหาทางเทคนิค บวกกับต้นทุนการผลิตสูง หากเร่งดำเนินการจะเป็นต้นทุนที่กระทบกับประชาชนผู้บริโภคได้

“ทั้งค่ายรถยนต์ และโรงกลั่น ยืนยันว่าไม่สามารถผลิตรถยนต์และน้ำมัน ได้ตามแผนของรัฐบาล โดยมาตรฐานฯยูโร 5 จะขอเลื่อนการผลิตออกไปเป็นปี 2567 ส่วนมาตรฐานฯยูโร 6 ยังไม่กำหนดปี”รายงานข่าวกล่าว

รายงานข่าวระบุว่า ในที่ประชุม นายสนธิรัตน์ ยังได้สอบถามกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงแนวทางดำเนินการ ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงยังยืนยันในแนวทางดังกล่าว เพราะผ่านความเห็นชอบทั้งจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และครม.แล้ว ทำให้นายสนธิรัตน์ แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะนัดหารือกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกครั้ง

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า กระทรวงฯยังคงยืนยันในมติครม.ที่กำหนดให้การผลิตรถยนต์ตามมาตรฐานฯยูโร 5 ภายในปี 2564 เพราะหากเกิดปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ขึ้นอีกจะตอบคำถามสังคมอย่างไร นอกจากนี้หากเทียบมาตรฐานน้ำมันไทยกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะเวียดนาม ได้กำหนดมาตรฐานฯยูโร 5 ภายในปี 2564 เช่นกัน นั่นแสดงว่าไทยจะให้เวียดนามแซงหน้าหรือ ขณะที่ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์ บังคับใช้มาตรฐานฯยูโร 5 ไปก่อนหน้าไทยหลายปีแล้ว

“ส่วนประเด็นต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่จะสูงขึ้นหลักแสนบาทต่อคันนั้น น่าจะหมายถึงรถยนต์ราคาสูง เพราะปัจจุบันมีรถยนต์ขนาดเล็กราคาหลักแสนหลายรุ่นในตลาด ดังนั้นต้นทุนดังกล่าวจะอยู่ที่รุ่นรถด้วย ส่วนการจะเลื่อนการผลิตรถเป็นปีใดต้องอยู่ที่รัฐบาล หากขยับไป 1 ปีพอรับได้ แต่นานกว่านั้นคงไม่เหมาะ”แหล่งข่าวกล่าว

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รักษาการรองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การผลิตรถยนต์และน้ำมันควรใช้มาตรฐานเดียวกัน และควรเกิดพร้อมกัน