“แครี่ หล่ำ” ยันฮ่องกงเข้มแข็ง ฮัปการเงิน-คมนาคม ย้ำแนวคิด “เยาวชนคืออนาคต”

“นางแคร์รี่ หล่ำ” ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษ​ฮ่องกง กล่าวปาฐกถา ในการประชุม ​”เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า: ขอบเขตใหม่แห่งการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีน แนวปฏิบัติใหม่ของหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ และเวทีใหม่ของความร่วมมือที่ทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์” หรือเขต GBA เมื่อ​วันที่ 24 ต.ค. 62 ว่า ได้ตั้งเป้าหมายให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางของเขต  ใน 4 ด้าน โดยพัฒนาจากศักยภาพที่ฮ่องกงมีอยู่ ได้แก่

อันดับแรก ด้านการเงิน​ ฮ่องกงเป็นศูนย์กลาง​ทางการเงินลำดับที่​ 3ของโลก  ลำดับที่​1 ของเอเชีย​ เป็นตลาดหลักทรัพย์​ที่สำคัญลำดับที่​ 6ของโลก​ ด้วยจุดแข็งด้านสถานที่ตั้งและระบบกฎหมายของฮ่องกง

อันดัที่ 2 คมนาคม ฮ่องกงเป็นศูนย์กลาง​การบิน​ โดยสนามบินฮ่องกงเป็น​สยามบินลำดับที่​ 3 ของโลก​ (74 ล้านคน) และเป็นแหล่ง​ขนส่ง​ cargo ลำดับที่​ 1 (5 ล้านตัน) และโครงการขยายท่าอากาศยาน​จะทำให้การเป็น”ประตู” ของฮ่องกงสำคัญยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยง จุดหมาย​กว่า​ 200​แห่งทั่วโลก​เข้าด้วยกัน

จุดแข็งที่ 3 ด้านการเป็นศูนย์กลางของบริการที่มีความเป็นมืออาชีพ (Professional Services) ระดับโลก​ ซึ่งเกิดจากระบบกฎหมาย การศึกษา​ โครงสร้าง​พื้นฐาน​และการให้บริการต่าง ๆ​ ทีที่ได้มาตรฐานระดับโลกของฮ่องกง

จุดแข็งที่ 4 การเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัย​ 3 แห่งในฮ่องกงติดอันดับ​ top 50​ ของโลก และฮ่องกงมุ่งส่งเสริมการพัฒนาด้าน​ Health technology,  AI robot, และการวิจัยพัฒนา  โดยฮ่องกงมีแผนที่จะร่วมจัดตั้ง​ Shenzhen-Hongkong Technology​ ​​Parkที่เซิ้นเจิ้น​ และ​ GBA​ academic alliance ในฮ่องกง​ (เน้น​การแลกเปลี่ยน+ร่วมมือ​ด้านวิทยาศาสตร์​และวิศวกรรม​กับจีนแผ่นดินใหญ่)​

“เยาวชนคืออนาคตของพวกเรา (Young People are Our Future) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน​ โดยเฉพาะการยกระดับความสามารถและการเข้าถึงโอกาสและเงินทุน”

นางแคร์รี่ ลัม กล่าวด้วยว่า “ฮ่องกงพัฒนามาถึงปัจจุบันเพราะอัตลักษณ์พิเศษฮ่องกง​ คือ​ การปกครองภายใต้​ “หนึ่งประเทศ​ สองระบบ​” ที่ทำให้ฮ่องกงมีอำนายอธิปไตย​ในการปกครองตนเองสูง​ (high​ autonomy) มีระบบกฎหมาย​และระบบเศรษฐกิจ​ที่แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่​ เป็น​ศูนย์กลาง​การค้าการลงทุน​ของนานาชาติ​ ซึ่งจะเป็นจุดเด่นที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาของ​ GBA​ต่อไป”

“แม้การชุมนุมประท้วงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ​ของฮ่องกง แต่รัฐบาลเขตบริหารพิเศษ​ฮ่องกงเชื่อมั่นว่าสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ และรัฐบาล​เขตบริหารพิเศษ​ฮ่องกงจะใช้อัตลักษณ์​และจุดแข็ง​ของฮ่องกง​ ภายใต้การปกครองตามหลักการ​ “หนึ่ง​ประเทศ​ สองระบบ” ในการเสริมสร้าง​ความร่วมมือที่ทุกฝ่ายล้วนได้รับผลประโยชน์​(win-win cooperation)”