“ปิยบุตร” ระบุ 70 ส.ส.ไม่อนุมัติ “พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังฯ” ยกมือตามมติพรรค หลังถกหนัก 3 วัน ขอไม่ตอบมติโหวตร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 รอประชุมสภาฯเสร็จก่อน เชื่อ “ส.ส.อนาคตใหม่” ยึดอุดมการณ์พรรค-ประโยชน์ปชช.

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีส.ส.โหวตสวนมติพรรคเรื่องไม่รับร่างพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ 2562 ว่า หลังจากนี้ต้องไปว่ากันในพรรค แต่ที่แน่ๆ ต้องยืนยันว่ามติพรรคที่ออกไปแล้วโดยส.ส. 70 เสียงที่โหวตไม่เห็นด้วยนั้น มาจากการประชุมอภิปรายแลกเปลี่ยนอย่างหนักร่วมกันเป็นเวลา 3 วัน ทั้งตอนไปสัมมนาพรรคที่ต่างจังหวัดและที่กรุงเทพฯ

เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่าที่ส.ส.บางคนโหวตสวนมติพรรคนั้น เกี่ยวข้องกับปัญหาการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกระบวนการภายในพรรค เราจะไปคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราออกแบบพรรคอนาคตใหม่โดยพยายามสร้างหลักประชาธิปไตยภายในพรรค ตนคิดว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่เปิดโอกาสให้กรรมการบริหารพรรค สมาชิก และส.ส. ได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนในที่ประชุมอย่างเต็มที่ หลายครั้งมติพรรคที่ออกมา เสียงของหัวหน้าพรรคก็เป็นเสียงส่วนน้อย และเพื่อให้พรรคมีความเป็นเอกภาพ ตนขออนุญาตไม่บอกว่าในระหว่างการหารือ ใครเป็นเสียงข้างมากและใครเป็นเสียงข้างน้อย แต่ยืนยันว่า ส.ส.ของเราเคารพมติพรรค และก่อนจะโหวตในสภาฯ ก็ไม่ได้พูดคุยหารือกับพรรคฝ่ายค้าน เพราะนี่คือจุดยืนของอนาคตใหม่

เมื่อถามว่า พรรคกังวลหรือไม่ว่าอาจมีส.ส.โหวตสวนมติพรรคในกรณีร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 นายปิยบุตรกล่าวว่า ขอให้รอดูต่อไป เหตุการณ์ยังไม่เกิด แต่ตนเชื่อมั่นในส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เพราะทุกคนได้รับการเลือกตั้งมา มีพันธะผูกมัดกับประชาชน ทุกคนจะยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคและผลประโยชน์ของประชาชน และร่วมต่อสู้ให้ถึงที่สุด และในขณะนี้ยังไม่มีมติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการโหวตรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ยังอยู่ระหว่างปรึกษาหารือ ขอรอการประชุมสภาฯให้เสร็จก่อน

“เรื่องนี้เป็นการบริหารจัดการของพรรคการเมือง เราอยากสร้างมิติใหม่ๆ เรื่องใด ๆ ก็ตามไม่เฉพาะเจาะจงแค่การลงมติไม่อนุมัติพ.ร.ก.ฉบับนี้เท่านั้น ผมอยากให้มองเป็นเรื่องทั่วไป เราต้องการออกแบบกระบวนการ ทำอย่างไรให้สมาชิกพรรคสามารถถกเถียงได้อย่างเต็มที่ เสร็จแล้วก็ลงมติ ว่ากันไปตามเสียงข้างมากและเคารพเสียงข้างน้อย ทิศทางแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ดีของการเมืองไทย” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าว