“กกต.”เตรียมจัดชุดลงพื้นที่ ปิดจุดบกพร่องเลือกตั้งนครปฐม หวั่นซ้ำรอย ‪24 มี.ค.

“กกต.”เตรียมจัดชุดลงพื้นที่ ปิดจุดบกพร่องเลือกตั้งนครปฐม หวั่นซ้ำรอย ‪24 มี.ค.‬ ตั้งชุดสืบสวนหาข่าว-ชุดไต่สวน รับมือการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เขตเลือกตั้งที่ 5 จ.นครปฐม ว่า กกต.มีการเตรียมความพร้อมเพื่อจัดการเลือกตั้งไว้หมดแล้ว แต่จากการถอดบทเรียนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ‪24 มีนาคม ‬ที่ผ่านมา พบว่ามีปัญหาโดยเฉพาะในหน่วยเลือกตั้ง เริ่มตั้งแต่การรายงานตัว การแจกบัตรเลือกตั้ง การแนะนำการใช้สิทธิให้ถูกต้องเพื่อป้องกันการเกิดบัตรเสีย รวมทั้งการนับคะแนน การวินิจฉัยบัตรเลือกตั้ง บัตรดีบัตรเสีย รวมทั้งการรวมคะแนน การปิดประกาศผลคะแนนหน้าหน่วย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดข้อบกพร่องทางกลุ่มงานภารกิจเลือกตั้ง สำนักงาน กกต. จะมีการจัดชุดลงพื้นที่ให้ความรู้แก่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งโดยละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการลงคะแนนหน้าหน่วย ‪5/18‬ เพราะที่ผ่านมามีบางจุดที่ตัวเลขไม่ตรงกัน อาทิ จำนวนผู้มาใช้สิทธิกับจำนวนบัตรไม่ตรงกัน ซึ่งเราก็ต้องกำชับกรรมการประจำหน่วยเกี่ยวกับกระบวนการการแจกบัตร รวมทั้งดูว่าผู้มาใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งลงในหีบหรือไม่ เป็นต้น

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วงในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเกิดความรุนแรงในการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ก็ได้มีการแต่งตั้งชุดสืบสวนหาข่าวลงในพื้นที่แล้ว โดยเป็นเจ้าหน้าที่ กกต.จากส่วนกลางลงไปเพื่อหาข่าวว่ามีการซื้อเสียงที่ไหนหรือไม่ โดยชุดสืบสวนหาข่าวจะลงไปหาข่าวครอบคลุม เขตเลือกตั้งที่ 5 ทุกพื้นที่ นอกจากนั้นก็มีการตั้งชุดไต่สวน โดยเป็นชุดสอบสวนของจังหวัดนครปฐมและพนักงานสอบสวนจากจังหวัดข้างเคียง รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางลงไปด้วย เพื่อเตรียมรับกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนให้ไต่สวน ส่วนการรับมือการหาเสียงทางโซเชียลมีเดียในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะไม่มีวอร์รูมเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป แต่ก็มีผู้รับผิดชอบติดตามอยู่แล้ว และนอกจากการติดตามของ กกต.แล้ว ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง ที่เห็นการใช้โซเชียลมีเดียใส่ร้าย ก็สามารถมาร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบได้ นอกจากนั้นยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง 5 คน โดยเป็นคนในจังหวัดนครปฐม 2 คน และนอกเขตจังหวัด 3 คน ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะมาทำงาน และจะลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างการทุจริตเที่ยงธรรม อย่างไรก็ตามเรายังต้องเชื่อว่าผู้สมัคร และพรรคการเมือง คงจะอยู่ในกรอบกติกาที่จะช่วยทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม