เผยแพร่ |
---|
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาข่าวปลอมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน โดยมี น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดีอี เป็นประธานกรรมการ พร้อมดึงตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นคณะกรรมการ
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดดีอี ยังมีหน่วยงาน อาทิ หน่วยงานด้านสาธารณสุข, กรมประชาสัมพันธ์ สถาบันการศึกษาชั้นนำในสาขานิติศาสตร์, นิเทศศาสตร์, วารสารศาสตร์, ผู้แทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, องค์กรด้านสื่อวิทยุและโทรทัศน์, สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์, หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมด้านการคุ้มครองผู้บริโภค, กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และผู้แทนจากสมาคมจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย
“ปัจจุบันการใช้สื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเตอร์เน็ต ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม ในการปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือ โดยมีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารไปจากข้อเท็จจริง ทำให้มีผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เด็ก เยาวชน ตลอดจนกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมอันดี และสถาบันหลักของชาติ ที่อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง จึงจะสรุปได้ว่า จะจัดตั้งคณะอนุกรรมการกี่คณะเพื่อให้ตรงตามประเภทข่าวลวง ซึ่งอยู่ภายใต้ 2 หลักสำคัญคือ 1.ความถูกต้อง ชัดเจน เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และ 2.มีความรวดเร็ว จากเดิมที่ใช้เวลาในการตรวจสอบเป็นเวลานาน จนเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างแล้ว
“เบื้องต้นคาดว่า ไม่เกิน 2 ชั่วโมงจะสามารถตรวจสอบข่าวปลอมได้ และใน 3 เดือน จะลดลงเหลือไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากต้องได้มาตรฐานในประเทศแล้ว ต้องได้รับมาตรฐานสากลต่อไปด้วย และยืนยันว่า กรอบการทำงานจะไม่ทำร้ายใคร หรือนำไปใช้เป็นเครื่องมือด้านการเมือง ซึ่งภายในเดือนตุลาคม 2562 เชื่อว่า ศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์ จะสามารถเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้” นายพุทธิพงษ์ กล่าว