“รัฐบาล” หวัง ปชช.ใช้จ่ายท่องเที่ยวเกิน 1,000 บาท แนะวางแผนเดินทาง-ประเมินเงินตัวเอง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในประเทศ ที่กระทรวงการคลังใช้ชื่อ “ชิม ช้อป ใช้” ว่า มาตรการนี้ใช้หลักการ First come, first served กล่าวคือ ทุกคนที่มีอายุเกิน 18 ปี จำนวน 10 ล้านคนแรกเท่านั้น ที่รัฐบาลได้เตรียมวงเงินไว้ คนละ 1,000 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน-15 พฤศจิกายน 2562 หรือจนกว่าจะครบ 10 ล้านคน จากนั้น จะได้รับ SMS ยืนยันไม่เกิน 3 วันทำการ และต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เพื่อรับสิทธิตามมาตรการ หรือเรียกว่า g-Wallet ซึ่งเป็นระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล โดยเงื่อนไขคือต้องไปเที่ยวในจังหวัดที่ไม่ตรงกับบัตรประชาชน จึงจะสามารถใช้จ่ายวงเงินในพื้นที่ที่ไปท่องเที่ยวได้

นางนฤมลกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มีรัฐมนตรีบางกระทรวงแสดงความเป็นห่วงว่า ที่ผ่านมาเราได้รับกระแสทั้งบวกและลบจากสังคม นายกฯจึงฝากให้ชี้แจงว่า หากประชาชนไม่ได้ใช้เงิน 1,000 บาทตามเงื่อนไข เม็ดเงินก็จะไม่ถูกเบิกออกจากภาครัฐ และในความเป็นจริง เมื่อไปเที่ยวต่างจังหวัด ประชาชนไม่ได้ใช้เงินแค่ 1,000 บาท ดังนั้น มาตรการนี้จึงเป็นการกระตุ้นให้คนไทยออกไปเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกหลายรอบ นอกจากนั้น ประชาชนจะได้รับเงินคืน หรือ Cash Back สูงสุดร้อยละ 15 ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน เท่ากับว่าวงเงินใช้จ่ายต้องไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน สำหรับการใช้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก หรือค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น เช่น สินค้า OTOP สินค้าวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็นต้น

เมื่อถามถึงข้อทักท้วงของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ต่อมาตรการดังกล่าว ที่ระบุว่าเงิน 1,000 บาทนั้นไม่เพียงพอต่อการท่องเที่ยว ประชาชนต้องควักกระเป๋าเพิ่ม แต่สถานการณ์วันนี้ ประชาชนไม่ได้มีเงินให้ควัก นางนฤมลกล่าวว่า รัฐบาลคาดหวังให้มีการใช้จ่ายมากกว่า 1,000 บาทอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำเป็นต้องประเมินกำลังการใช้จ่ายของตัวเอง และวางแผนการเดินทางก่อนออกท่องเที่ยว