วันที่ 5 สิงหาคม 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานสถานการณ์การประท้วงบนเกาะฮ่องกงที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 8 สัปดาห์แล้ว จากการประท้วงกดดันให้ผู้นำฝ่ายบริหารเกาะฮ่องกงลาออก อันเป็นผลพวงของการผลักดันกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่กลายเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงจนลุกลาม โดยล่าสุดสถานการณ์ในท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงกำลังตึงเครียด จากการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ของพนักงานในสนามบิน โดยประเมินเบื้องต้นมีกลุ่มพนักงานที่ร่วมการประท้วงนับพันคน ทำให้เที่ยวบินมากกว่า 230 เที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นทางบินไปหลายประเทศในเอเชียต้องประกาศหยุดให้บริการชั่วคราว นอกจากนี้ บางสายการบินประกาศยุติการให้บริการการบินไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.62)

โดยเจ้าหน้าที่การบินประกาศเตือนผู้โดยสารถึงเหตุขัดข้องดังกล่าว พร้อมแนะนำให้ตรวจสอบกับสายการบินที่ใช้บริการเกี่ยวกับข้อมูลเที่ยวบินอย่างใกล้ชิด เพราะการบินอาจจะล่าช้า เนื่องจากท่าอากาศยานแห่งนี้มีเพียงรันเวย์เดียว โดยเจ้าหน้าที่จะเปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อระบายเที่ยวบิน ช่วงระหว่าง 12.00 น.ของวันนี้ และอีกครั้งในเวลา 6.00 น. ช่วงเช้าของวันอังคารที่ 6 ส.ค.

ส่วนสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค, ฮ่องกงเอ็กซ์เพรส และฮ่องกงแอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในเวลานี้

ด้านระบบขนส่งมวลชนสาธารณะบนเกาะ รถโดยสารประจำทางก็หยุดให้บริการ ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงได้กระจายเพื่อปิดกั้นหลายพื้นที่ใน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เช่น สถานี Fortress Hill, สถานี Tai Wai และ สถานี Lai King โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นเป็นไปได้ว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะกระจายความปั่นป่วนไปที่หลายพื้นที่เข้า-ออก ของท่าอากาศยาน ปิดกั้นเส้นทางไปอ่าวท่าเรือฮ่องกงและสถานีรถไฟใต้ดินสถานีอื่นๆ เพิ่มเติม

ขณะที่ นางแครี่ หล่ำ ผู้นำฝ่ายบริหารเกาะฮ่องกงได้ขึ้นแถลงต่อสื่อเป็นครั้งแรกโดยเตือนผู้ประท้วงว่า สิ่งที่กระทำอยู่ในขณะนี้เป็นการท้าทายต่ออำนาจอธิปไตยของจีน และกำลังผลักให้สถานการณ์ลุกลามอันตรายอย่างร้ายแรง

นางหล่ำกล่าวว่า พวกเขาอ้างว่าพวกเขาต้องการปฏิบัติและฟื้นฟูฮ่องกง การกระทำของพวกเขาไปไกลกว่าข้อเรียกร้องทางการเมืองแต่เดิม การกระทำอันผิดกฎหมายเหล่านี้ ได้ท้าทายต่ออำนาจอธิปไตยของเราและทำให้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” เป็นอันตราย ซึ่งจะทำลายเสถียรภาพและความมั่งคั่งของฮ่องกง