ผู้คนกำลังจะตายอยู่แล้ว! “ยูเอ็น” วอนพม่าเปิดทางส่งความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ประชาชนในรัฐยะไข่

วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เออร์ซูล่า มูลเลอร์ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติด้านมนุษยธรรมและรองผู้ช่วยบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ของสำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรม หรือยูเอ็นโอซีเอชเอ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือสามารถเข้าถึงรัฐยะไข่อย่างสะดวกและราบรื่น ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลพม่ากับกลุ่มติดอาวุธที่ทำให้ประชาชนในรัฐยะไข่กว่า 3 หมื่นคนต้องไร้ที่อยู่ พร้อมกับระบุว่า ผู้คนที่นั่นกำลังล้มตายหากขาดความช่วยเหลือ

น.ส.มูลเลอร์ กล่าวว่า หากความช่วยเหลือรวมทั้งคลินิกเคลื่อนที่ ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน พวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้และบางคนอาจกำลังจะตายด้วย

ท่าทีของยูเอ็นครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐยะไข่ของพม่าเกิดการสู้รับกันระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มติดอาวุธอาระกัน ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกที่ดึงเอาชาวพุทธยะไข่มาร่วมต่อสู้เพื่อสิทธิในการปกครองตนเอง

ก่อนหน้านี้ น.ส.มูลเลอร์ ได้เดินทางเยือนพม่าเพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลพม่ารวมถึงนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของพม่าที่กรุงเนปิดอว์เมื่อปีก่อน โดยนางซูจี กล่าวว่า กำลังเร่งทำงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาและความสมัครสมานสามัคคีของสังคมในรัฐยะไข่ให้เกิดขึ้น อีกทั้งน.ส.มูลเลอร์ ได้เดินทางเยือนค่ายพักชั่วคราวนอกกรุงซิตตะเว เมืองหลวงของรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นที่อาศัยของชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายพันคน โดยเป็นกลุ่มลี้ภัยจากที่อยู่เดิมตั้งแต่เกิดเหตุขัดแย้งครั้งใหญ่เมื่อปี 2556 โดยพบว่าส่วนใหญ่ยังไม่ได้สิทธิความเป็นพลเมืองและถูกยับยั้งไม่ให้เคลื่อนที่หรือเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน

ทั้งนี้ รอยเตอร์สรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า พม่ากำลังทำงานร่วมกับยูเอ็นในยุทธศาสตร์เพื่อปิดค่ายและให้อยู่ในสิ่งปลูกสร้างหลังใหม่บนที่เดิม แทนที่จะปล่อยให้ชาวโรฮิงญากลับไปอยู่ในพื้นที่เดิมที่เคยจากมา ซึ่งน.ส.มูลเลอร์ก็กล่าวว่า กำลังหารือเรื่องนี้กับทางการพม่าด้วย และระบุว่่า นี่ยังไม่เพียงพอในการตั้งสิ่งก่อสร้างบนที่เดิมโดยที่ไม่สามารถบอกสาเหตุได้ อีกทั้งประชาชนก็ไม่มีเสรีภาพที่จะเดินทาง พวกเขากำลังหมดหวังลงเรื่อยๆ หลังต้องอยู่แต่ในค่ายมากว่า 7 ปี