ผู้ว่าฯ พาตีเมาะ ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 บูรณาการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ป.ป.ส. แถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงจากภาคกลางลงมายังชายแดนใต้ แต่ไม่รอด! ยึดยาบ้ามากถึง 1.4 ล้านเม็ด ไอซ์ 350 กิโลกรัม พร้อมขยายผลยึดทรัพย์ได้อีกร่วม 80 ล้านบาท

วันนี้ (4 พ.ค.67) นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 พลตำรวจตรี สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้า 1.4 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 350 กิโลกรัม และทรัพย์สินร่วม 80 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามนโยบายจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 9 และจังหวัดปัตตานี

นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า นับตั้งแต่การประกาศนโยบายจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และทำสงครามกับยาเสพติด จังหวัดปัตตานี ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ตลอดจนตามแนวชายแดน ด้วยความร่วมมือของฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครต่าง ๆ ในพื้นที่ ทำให้สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเชิงรุก และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และการลักลอบนำยาเสพติดเข้าตามแนวตะเข็บชายแดนได้ตลอดมา โดยสำหรับการดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนสอบสวน จังหวัดปัตตานี ว่าจะมีกลุ่มขบวนการนักค้ายาเสพติดรายใหญ่จะลำเลียงยาเสพติดด้วยรถยนต์มาจากภาคกลางลงมาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะทำการกระจายยาเสพติดส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ท่านผู้บัญชาการฯ ได้ประสานงานมายังตน และสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ พร้อมชุด ป.ป.ส. ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า ผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้จะใช้รถยนต์จำนวน 3 คันในการลำเลียงยาเสพติดลงมา จึงได้วางกำลังตามจุดต่าง ๆ เพื่อจับตารถต้องสงสัยทั้ง 3 คัน ดังกล่าว จนกระทั่งพบเห็นเป้าหมายเข้าไปภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. พื้นที่หมู่ 1 ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการแสดงตัวเพื่อตรวจค้น ปรากฏว่าพบยาเสพติดตามที่รับแจ้ง ซ่อนไว้อยู่ด้านหลังรถ พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายทันที

“การจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ 4 ราย คือ นายเอกทัศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี นายอนันต์ชวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี และนายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,400,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 350 ถุง รวมน้ำหนัก 350 กิโลกรัม ตรวจยึดรถยนต์ใช้ก่อเหตุ จำนวน 3 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง (ยาบ้า, ยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกระทำให้เกิดผลกระทบกับความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อีกจำนวน 11 รายการ มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 รายยังให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการ ทราบชื่อว่า “นายโท” ซึ่งอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย” นางพาตีเมาะ กล่าวเพิ่มเติม

นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวในช่วงท้ายว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นประตูด่านสุดท้ายที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทางตอนล่างของประเทศ คือ ประเทศมาเลเซีย จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของขบวนการค้ายาเสพติดและกลุ่มผู้มีอิทธิพลข้ามชาติในการกระทำผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น ตนจึงขอเน้นย้ำ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตลอดจนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และผู้บังคับใช้กฎหมายทุกท่าน ได้มุ่งมั่นทำงานอย่างเข้มแข็ง ร่วมกันประกาศสงครามกับยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งสกัดกั้นการลำเลียงขนส่งยาเสพติดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งต้องช่วยกันทั้งภาครัฐและพี่น้องประชาชน ในการ “เป็นหูเป็นตา” เป็นสายลับให้กับภาครัฐในพื้นที่ ขณะเดียวกับ ฝ่ายปกครองภายใต้การนำของนายอำเภอต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการ Re X – ray อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลักลอบเสพและค้าในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนพบเห็นเบาะแสการลักลอบเสพหรือค้ายาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสของการกระทำผิดให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบโดยเร็วผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรมโทร 1567 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันทำให้จังหวัดปัตตานีปลอดภัย ลูกหลานได้ห่างไกลจากยาเสพติด และทำให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2567
วันที่ 4 พ.ค. 2567