วันที่ 15 เมษายน 2562 นายนพดล อมรเวช หัวหน้าพรรครวมใจไทย และนักวิการอิสระด้านการเมืองการปกครอง และเลขาธิการกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เกิดกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ ประกอบด้วยพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 25 พรรคการเมือง มีจุดยืนร่วมกันและเล็งเห็นพ้องในการนำประเทศ ออกจากวังวนเดดล็อกและกับดักทางการเมือง เพราะหากไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ได้ จะส่งผลเสียหายต่อการก้าวเดินไปข้างหน้าของประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และเสถียรภาพทางการเมืองที่อาจสร้างความขัดแย้งต่อไปไม่รู้จบและถึงทางตันในที่สุด

ส่วนตัวนั้น ขอเสนอ 2 แนวทางผ่าทางตันนำออกจากเดดล็อกการเมือง คือ 1.ให้มีการจัดตั้ง “ รัฐบาลสามัคคี สร้างชาติ ” เพื่อการเปลี่ยนผ่านการบริหารจัดการและการจัดระบบการขับเคลื่อนประเทศให้สามารถเดินต่อไปได้ เพื่อมิให้เกิดเดดล็อก และกับดักทางการเมือง ซึ่งจะนำพาบ้านเมืองถอยหลังสู่ทางตัน และเดินชนกำแพงเหล็ก ไปต่อไม่ได้ โดยนายกรัฐมนตรีควรหรืออาจจะเป็นคนกลาง ซึ่งมีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของคนในสังคมทุกกลุ่ม และต้องไม่ใช่ทหาร หรือจากกลุ่มการเมือง หรือกลุ่นนายทุนของการเมือง-การทหาร ซึ่งมั่นใจและเชื่อมั่นว่าในประเทศไทยมีบุคคลหรือท่านที่มีคุณสมบัตินี้อยู่แล้ว

และ 2.หากคงผลการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 62 เมื่อ กกต.ประกาศรับรองผลตามกรอบเวลากฎหมายได้แล้ว ให้จัดตั้งเป็น สภาสามัคคีแห่งชาติ โดยให้ทุกพรรคการเมืองที่มีอยู่ทั้งหมด เข้าเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยในสภาสามัคคีแห่งชาติด้วย เพราะทุกพรรคการเมืองก็มีคะแนนเสียงและมีสมาชิกพรรคซึ่งถือว่าทุกพรรคย่อมเป็นตัวแทนของประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งประเทศ หรือหากยกเลิกผลการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อ 24 มีนาคม 62 ก็ต้องสรรหาสมาชิกสภาสามัคคีแห่งชาติใหม่ด้วยเช่นกัน

จากนั้นสภาสามัคคีแห่งชาติ จะต้องเร่งจัดตั้งสภาร่างและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นที่ยอมรับก่อน เสร็จแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญอาจจะต้องมีตัวแทนทุกพรรคการเมือง และภาคส่วนสำคัญอื่นร่วมเป็นสภาร่าง เพื่อให้เกิดรัฐธรรมนูญ ที่เป็นความจริงของการเมืองการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตย ของประเทศไทย อันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสูงสุด

มติชนออนไลน์