“อนค.” พร้อมดันแรงงานเข้าสภา “ปิยบุตร” ชู 3 เหตุผลทำไม “ธนาธร” เหมาะเป็นนายกฯ

เมื่อวานนี้ (19 มกราคม 2562) พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค, นายสุนทร บุญยอด กรรมการบริหารพรรคปีกแรงงาน ร่วมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามฟุตบอลเคหะเอื้ออาทรบางโฉลง จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สมุทรปราการ ทั้ง 7 เขต โดยมีประชาชนรับฟังอย่างคับคั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มงานสมาชิกปีกแรงงานของพรรคอนาคตใหม่ ได้ร่วมกันกล่าวปราศรัยเปิดเวที สะท้อนปัญหาของผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ รวมถึงแรงงานนอกระบบ และเน้นถึงนโยบายด้านรัฐสวัสดิการที่มุ่งเข้าไปจัดการกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่และผู้นำแรงงาน ระบุว่า ที่ผ่านมาขบวนการแรงงานได้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิด้านต่างๆมาอย่างยาวนาน แต่บัดนี้แรงงานอย่างตนจะขอเข้าไปผลักดันสิทธิของแรงงานด้วยตนเองต่อจากนี้ไป ไม่ใช่การร้องขอต่อผู้มีอำนาจอีกต่อไปแล้ว

ขณะที่ นายปิยบุตร ได้ขึ้นปราศรัยย้ำถึงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ในการหยุดยั้งการรัฐประหาร โดยชี้ให้เห็นว่า คสช.ได้วางแนวทางผ่านรัฐธรรมนูญไว้หมดแล้ว ที่จะสืบทอดอำนาจต่อไปอีกหลายสิบปี ซึ่งมีแต่เพียงการล้มล้างผลพวงของการรัฐประหาร นำเอาคณะรัฐประหารมาสู่การลงโทษเท่านั้น จึงจะสามารถหยุดยั้งสิ่งนี้ได้

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า พรรคอนาคตใหม่จะเสนอนายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะประเมินแล้วเห็นว่า ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้วในช่วงนี้ นี่เป็นช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อทางการเมืองไทย เราต้องการคนมาบริหาร คนที่มีจุดยืนอย่างมั่นคงในเรื่องประชาธิปไตย เพราะนี่เป็นการบริหารประเทศใต้คมหอกคมดาบของเผด็จการ จึงต้องกล้าชนกับทหารด้วย และต้องเป็นคนหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีบาดแผลทางการเมือง ที่พร้อมมาสร้างความเปลี่ยนแปลง

“คุณธนาธรมีคุณสมบัติทั้ง 3 ข้อ สรุปคือ 1 บริหารงานเป็น ซึ่งพิสูจน์แล้วจากแวดวงธุรกิจ 2 มีจุดยืนประชาธิปไตย ต่อสู้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษา และ 3 เป็นคนหน้าใหม่ทางการเมืองที่พร้อมเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ” นายปิยบุตรกล่าว

ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่วันนี้มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเศรษฐกิจปากท้อง ที่เติบโตแบบเอื้อประโยชน์ให้แก่อภิสิทธิ์ชนเพียงกลุ่มเดียว ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องยากจนลง ดังจะเห็นได้จากการเอื้อประโยชน์ระหว่างกันของพรรคทหารและกลุ่มทุนผูกขาดที่เกิดขึ้น และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นต่อไปตราบที่ประเทศไทยยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อทลายอภิสิทธิ์ชนกลุ่มนี้ลง และกระจายอำนาจและความมั่งคั่งลงมาสู่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้

“คนกลุ่มนี้ออกแบบยุทธศาสตร์มาใช้ต่อไปอีก 20 ปีอีกไม่นานก็จะตายไปแล้ว แต่คนอย่างพวกเราคือคนที่ต้องอยู่กับสิ่งนี้ไป คนกลุ่มนี้เองคือคนที่เที่ยวบอกพวกท่านทุกวันว่าเราต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งๆที่ตนเองเป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรมให้ตัวเอง คนกลุ่มนี้คือคนที่ยิงเสือดำไม่ต้องติดคุก ยืมนาฬิกาเพื่อนไม่ต้องคืน แล้วเราจะปล่อยให้สังคมของเราอยู่ในมือของกลุ่มคนเหล่านี้ต่อไปหรือ?” นายธนาธร กล่าว