วันที่ 7 ธันวาคม 2561 เมื่อเวลา 9.00 น. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย “โบว์” ณัฏฐา มหัทธนา พร้อมกลุ่มพลังมด และประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรม “เดินสายให้กำลังใจ 7 พรรคต้าน คสช.” โดยในวันนี้ จุดหมายแรกได้เยือนพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พร้อมกับช่อดอกกุหลาบขาวแก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ เพื่อเป็นกำลังใจในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่แสดงจุดยืนชัดเจนในการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และประกาศไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยในวันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ไม่เข้าร่วมการประชุมที่สโมสรกองทัพบก เกี่ยวกับการเตรียมการการเลือกตั้ง ซึ่งคสช.เป็นเจ้าภาพในการประชุมด้วย

น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า เช้านี้เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นพรรคแรกที่ประกาศไม่เข้าร่วมประชุมที่สโมสรทหารบกด้วยจุดยืนที่ชัดเจน ว่าการเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. คสช.ไม่พึงแทรกแซงไม่ว่ากรณีใดๆ อีกทั้งเป็นพรรคที่มีจุดยืนที่ไม่กำกวมในการต่อต้านอำนาจเผด็จการมาตลอด หลักฐานสำคัญที่สุดคงเป็นคดีความต่างๆที่คนในพรรคได้รับอันเกี่ยวเนื่องจากการแสดงความเห็นต่อต้านคสช. ไม่ว่าจะเป็นนายวัฒนา เมืองสุข อ.ชัยเกษม นิติศิริ นายนพดล ปัทมะ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ร.ท.หญิงสุนิสา ทิวากรดำรง นายนิสิต สินธุไพร ฯลฯ หรือแม้แต่ทั้งสามท่านที่มาต้อนรับพวกเราในวันนี้ ก็มีคดีความจากงานแถลงข่าวประเมินผลงานสี่ปีรัฐบาลคสช.ด้วย จึงจะเห็นได้ว่าการยืนตรงข้ามอำนาจเผด็จการนั้นคือความกล้าหาญอันมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงในการถูกตั้งข้อหา หรือการถูกกลั่นแกล้งในกระบวนการสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง

“เราในฐานะประชาชนจึงต้องการมาให้กำลังใจ ยืนเคียงข้าง เพื่อบอกให้รู้ว่า หากคุณเงยหน้าขึ้นสู้เผด็จการ หลังจะพิงประชาชนได้เสมอ และ “วันนี้เราได้นำดอกกุหลาบขาวมามอบเป็นสัญลักษณ์ของความชัดเจนไม่กำกวมในจุดยืน เป็นความบริสุทธิ์ใจที่ประชาชนจะต้องเชื่อมั่นได้ว่าไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ซึ่งดอกกุหลาบสีขาวดังกล่าว ทางกลุ่มได้เตรียมไว้มอบให้ทั้ง 7 พรรค (เพื่อไทย อนาคตใหม่ ไทยรักษาชาติ สามัญชน ประชาชาติ เสรีรวมไทย เพื่อชาติ) ที่ร่วมอยู่ในกำหนดการเดินสายในกิจกรรมนี้ เพราะเป็นพรรคที่ได้แสดงความชัดเจนในจุดยืนว่าจะไม่ร่วมสนับสนุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการ” แกนนำคนอยากเลือกตั้ง กล่าว

ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งยังฝากสื่อมวลชนเน้นย้ำกับ กกต.ที่จะอยู่ที่สโมสรกองทัพบกวันนี้ ถึงข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่ทางกลุ่มและเครือข่าย FFFE เคยมีหนังสือถึงกกต. คือ 1. ผลักดันให้เกิดการปลดล็อคการเมืองและคำสั่งที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อและประชาชน 2. ตรวจสอบความสัมพันธ์ของพรรคพลังประชารัฐกับรัฐบาลคสช. 3. ให้คสช.ยุติบทบาท และรัฐบาลคสช.เปลี่ยนสภาพเป็นรัฐบาลรักษาการ 4. หยุดใช้ม.44 แทรกแซงการดำเนินงานของกกต. และ 5. เชิญองค์กรที่เป็นกลางจากต่างประเทศเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งด้วย

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องขอบคุณกลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้ให้เกียรติมาเยี่ยมพรรคเพื่อไทยและให้กำลังใจกับพวกเราในการทำหน้าที่ ในฐานะพรรคการเมืองที่ต่อสู้กับความไม่ธรรมและไม่ประชาธิปไตย คิดว่าสิ่งที่เพื่อไทยยืนอยู่มาจนถึงทุกวันนี้กว่า 10 ปี เราถูกกระทำ พยายามทำร้ายหรือถูกทำลายแต่ก็ฆ่าไม่ตาย ทำลายไม่หมด เพราะสิ่งที่ยืนอยู่คือหลักการสำคัญ 2 ประการ อย่างแรก เรายึดหลักในอุดมการณ์ที่แน่วแน่ยึดมั่นในความเป็นประชาธิปไตย อีกประการคือ เรามีพี่น้องประชาชนที่เชื่อมั่น ศรัทธาในอุดมการณ์ของเรา ไม่ว่าเราถูกทำลายไปแค่ไหนแต่ยังอยู่กับเรา เป็นพลังศรัทธาที่พวกเราทุกคนจะยืดหยัดสู้ต่อไป

“ผมคิดว่า เวลานี้ใกล้ถึงเลือกตั้งที่จะมาถึง การเลือกตั้งเป็นจุดสำคัญที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ประชาชนใช้อำนาจของประชาชน สังคมไทยจะมีเรื่องที่สำคัญคือ เรากำลังจะต่อสู้กับสภาพที่ดำรงอยู่และสภาพที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น วันนี้เรากำลังต่อสู้ระหว่างสิ่งที่จะทำให้สังคมไม่มีความเป็นประชาธิปไตย อยู่ในจุดยืนที่ผู้มีอำนาจเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม ใช้อำนาจผลักดันเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นไปอย่างที่ต้องการกับพลังฝ่ายประชาธิปไตยที่อยากเห็นสังคมเปลี่ยนแปลง ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ขณะนี้เรามองไปที่พี่น้องประชาชนและน้องๆที่มาในวันนี้ เป็นตัวแทนสำคัญของพลังพี่น้องประชาชน ที่อยากเห็นสังคมมีเลือกตั้ง เป็นพลังที่พี่น้องประชาชนในการจัดการอนาคตของตัวเอง เราทุกคนชื่นชมที่สิ่งทุกคนเป็นแนวหน้าทำตรงนี้ อยากให้พลังของประชาชนเกื้อหนุนพลังของฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดอีกหลายพรรคที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ทำให้สังคมไทยหลุดพ้นจากความไม่เป็นประชาธิปไตย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

ขณะที่ นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย ตัวแทนกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะเสียงสะท้อนของคนรุ่นใหม่ ขอเป็นกำลังใจให้พรรคการเมืองที่ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย เรามองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการกำหนดอนาคตประเทศ บรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกจำนวนกว่า 8 ล้านจะกำหนดผ่านเลือกตั้ง เราเคารพในศักดิศรีของพรรคเพื่อไทยที่ไม่ร่วมประชุมกับ คสช. และขอขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่ยังยืนหยัดตรงนี้ เราอยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้ กำหนดอนาคตประชาชนให้หลุดจากกับดักที่มีมาตั้งแต่รัฐประหาร 2557

นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังได้นำกระดานหมากรุกเพื่อชวนกลุ่มคนอยากเลือกตั้งร่วมเล่นพร้อมกับกล่าว ในโอกาสที่ทุกคนเยือนสถานที่แห่งนี้ ได้เห็นอุปกรณ์ของห้องสมุดซึ่งย้ำหลักความคิด 3 ประการ คือ ประการแรก ในการแข่งขันมันเป็นเรื่องของบุคคล คณะบุคคล ในคณะบุคคลนั้นย่อมมีคนทำหน้าที่แตกต่างกัน ตั้งแต่หัวหน้าจนถึงกรรมการบริหาร สมาชิก การที่กลุ่มคนเหล่านั้นอยู่ร่วมกัน แม้หน้าที่แตกต่างแต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ประการที่สอง การที่แข่งขันกันนั้น ถ้าเรายืนอยู่บนกติกาที่มีความชัดเจน เรากติกาที่เป็นสิ่งที่เข้าใจโดยสากลเป็นอย่างดี กีฬาชนิดนี้ก็สามารถบ่งบอกได้ ประการที่สาม เมื่อแข่งขันบนกติกาที่ถูกต้องชัดเจน ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งเดิน 3 ตา อีกฝ่ายเดินได้ 1 ตา ผลของการแข่งขันนั้นจะออกมาแบบไหนระหว่างผู้เข้าแข่งขันที่ ก็จะยอมรับผลนั้น และผู้ชมที่ดูการแข่งขันที่เป็นไปอย่างยุติธรรมก็จะประทับใจต่อผู้ชมทั้งไทยและต่างชาติ