สรุปข่าวในประเทศ : ยืดเวลายื่นบัญชีทรัพย์สิน / ปลดล็อก “กัญชา” รักษาโรค / อุตตมยันอีกครั้งลาออกเมื่อเหมาะสม

ก.ตร.ตั้งกองบัญชาการใหม่ ดูแลภารกิจพิเศษ “จิตอาสา”

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เข้าร่วม หลังการประชุม พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ที่ประชุม ก.ตร.ครั้งนี้มีการกำหนดตำแหน่งตั้งกองบัญชาการ (บก.) ใหม่ขึ้นมา เป็นการปรับโอนตำแหน่งในหน่วยงานสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เรียกว่ากองแผนงานกิจการพิเศษ เป็น บก.ใหม่ที่ให้ดูแลภารกิจพิเศษ เช่น ภารกิจจิตอาสาทั้งหมด รวมทั้งเรื่องการถวายความปลอดภัยโดยเฉพาะ โดยกำหนดให้มี ผบก. 1 ตำแหน่ง รอง ผบก. 2 ตำแหน่ง ผกก. 6 ตำแหน่ง รอง ผกก. 12 ตำแหน่ง สว. 17 ตำแหน่ง รอง สว. 35 ตำแหน่ง รวมชั้นประทวนจะมีทั้งหมด 112 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการปรับโอนและปรับระดับบางส่วน อีกส่วนในระดับกองกำกับการ เป็นการปรับในสำนักงานงบประมาณ ตร.เรียกว่าฝ่ายงบประมาณ 6 ดูแลเรื่องงบประมาณสำหรับภารกิจถวายความปลอดภัยโดยตรง ทั้ง 3 เรื่องเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องการสนองนโยบายเรื่องจิตอาสาโดยตรง

ป.ป.ช.ยืดเวลาให้ กก.สภามหาวิทยาลัย ยื่นบัญชีทรัพย์สินอีก 60 วันใน 5 ตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงผลการประชุมกรณีแก้ไขปัญหาการกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ร.บ.ป.ป.ช. 2561 ว่า ภายหลังที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทบทวนประกาศดังกล่าวในส่วนของตำแหน่งนายกและกรรมการสภานั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ตำแหน่งนายกและกรรมการสภายังเป็นตำแหน่งที่ต้องมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. แต่โดยตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งใหม่ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน หากจะให้ประกาศมีผลบังคับใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวทันที เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการบริหารงานภายในมหาวิทยาลัย ถ้ามีกรรมการสภาคนใดลาออกไป ดังนั้น จึงมีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้ประกาศ ป.ป.ช.ดังกล่าวเฉพาะตำแหน่งนายกและกรรมการสภา ทั้งในมหาวิทยาลัยกำกับของรัฐและในสังกัดของรัฐ และรวมถึงตำแหน่งประธานสภา รองประธานสภา และกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า ที่ได้รับการขยายเวลาด้วย แต่ไม่รวมตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นเวลา 60 วัน มีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 มกราคม 2562

ปลดล็อก “กัญชา” ให้ใช้รักษาโรค ทดลองก่อน 5 ปี-รวมใบกระท่อมด้วย

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่… พ.ศ. … ที่ รมว.สาธารณสุขรับมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณา หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ.กัญชา โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมให้ เพื่อส่งกลับไปให้ สนช.พิจารณาในสัปดาห์หน้า สาระสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติมคือ ห้ามมิให้ผลิต นำเข้า หรือส่งออกยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา ใบกระท่อม) เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต เฉพาะกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เว้นแต่ได้รับใบอนุญาต และกำหนดให้การมียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไว้ในครอบครองไม่เกินจำนวนที่จำเป็น สำหรับการใช้รักษาโรคเฉพาะ หรือสำหรับปฐมพยาบาล ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และให้ใช้ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้ หากเป็นการรักษาโรค ตามคำสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลปะ หรือเพื่อศึกษาวิจัย นอกจากนี้ กำหนดให้ผู้รับอนุญาตสามารถจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้ในสถานที่ที่ระบุไว้เท่านั้น ขณะเดียวกัน เพิ่มเติมอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีอำนาจในการกำหนดเขตพื้นที่ เพื่อทดลองปลูกพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 รวมถึงผลิตและทดสอบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้ตามพื้นที่กำหนด หรือกำหนดเขตพื้นที่ให้เสพกระท่อม หรือครอบครองยาเสพติดประเภท 5 ในปริมาณที่กำหนด

“เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้เลย จึงแก้ให้มีการนำเข้า ส่งออกได้ แต่ต้องนำมาใช้ในการรักษาพยาบาลเท่านั้น และยกเว้นให้มีกัญชา กระท่อมไว้ในครอบครองได้ แต่ว่ามีไว้เฉพาะในการรักษาพยาบาล ทั้งหมดนี้เพื่อสังคมมีความเข้าใจมากขึ้น โดยคณะกรรมการ ป.ป.ส. และกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ให้อนุญาตเรื่องพื้นที่ที่สามารถปลูกได้ ไม่ได้หมายความว่าปลูกหลังบ้านก็ได้ ต้องเป็นพื้นที่ที่เห็นว่าเหมาะสม ไม่ใช่อิสระ” นายพุทธิพงษ์กล่าว

อุตตมนำทีมสมัครสมาชิก พปชร. ยัน “ประยุทธ์” เหมาะสมนายกฯ

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาคารปานศรี ถนนรัชดาภิเษก พรรคพลังประชารัฐเปิดรับสมัครสมาชิกพรรควันแรกอย่างเป็นทางการ โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ

นายอุตตมเปิดเผยว่า มีผู้สนใจร่วมอุดมการณ์กับพรรคมาสมัครเป็นสมาชิกกันอย่างคึกคัก ซึ่งน่ายินดีที่ได้รับความเชื่อมั่นและได้รับกำลังใจ จากนี้จะเปิดรับสมัครสมาชิกต่อไป ผู้สื่อข่าวถามถึงการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ นั้น ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่ได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อถึงเวลาพรรคจะพิจารณาคนที่เหมาะสม ส่วนจะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่ ต้องรอดู

“ผมเคยพูดแล้วว่าในช่วงเปลี่ยนผ่าน พล.อ.ประยุทธ์เหมาะสมจะนำพาประเทศ แต่สุดท้ายต้องอยู่ที่สมาชิกพรรคว่าจะเห็นอย่างไร ขณะนี้พรรคดำเนินการเต็มที่ หวังจะได้ ส.ส.จำนวนมากแน่นอน แต่จะได้เท่าไร ขึ้นอยู่กับประชาชน” นายอุตตมกล่าว และว่า จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขต แต่ไม่ได้โฟกัสพื้นที่ใดเป็นพิเศษ เราให้ความสนใจทั้งประเทศ

ส่วนช่วงเวลาที่ 4 รัฐมนตรีจะลาออกนั้น ขอให้รอดู คำตอบยังเป็นเช่นเดิมว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะลาออก