ไฟเขียวแผนแก้หนี้องค์การค้าฯ เล็งขอพักหนี้หน่วยงานรัฐกว่า 200 ล.

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมหารือ ระดมความคิดเห็นเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินขององค์การค้าฯ ซึ่งมีหลายเรื่อง เป็นข้อเสนอที่ดี

นายอรรถพล  ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ.ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. กล่าวว่า องค์การค้าฯมีหนี้ที่ถึงกำหนดต้องชำระอยู่ประมาณ 2-3 หน่วยงาน ที่ประชุมเสนอรัฐมนตรีว่าการศธ. ขอพักชำระหนี้ในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานปลัดศธ. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)  ทั้งนี้ในส่วนของสพฐ. รัฐมนตรีว่าการศธ. มอบให้องค์การค้าฯไปตรวจสอบรายละเอียด ซึ่งจากข้อมูลองค์การค้าฯ มีหนี้สินกับสพฐ. อยู่ประมาณกว่า  200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าลิขสิทธิ์  สำนักงานปลัดศธ. 30 กว่าล้าน หากพักชำระหนี้ได้ ก็ให้ดำเนินการ  เพื่อให้องค์การค้าฯ เตรียมงบประมาณ สำหรับจ้างพิมพ์และซื้อกระดาษ  ส่วนสสวท.มอบนายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการศธ. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ไปเจรา   ทั้งนี้สำหรับหนี้เร่งด่วน  เช่นค่ากระดาษ การจัดพิมพ์ เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะถือว่า เป็นหนี้ปกติในเชิงธุรกิจ  เร็ว ๆ นี้องค์การค้าฯ จะเริ่มมีรายไดเข้ามา จากค่ามัดจำ ที่ได้จากร้านค้าตัวแทน เชื่อว่าจะทยอยชำระได้

นายวีระกุล กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้องค์การค้าฯ และสกสค. ไปดูรายละเอียดจัดทำแผนชำระหนี้  ดูว่าหนี้ไหนถึงกำหนดก่อน จะดำเนินการอย่างไร นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือกรณีที่ดินย่านลาดพร้าวจำนวน 2 ไร่กว่า ซึ่งเปิดประมูลให้เช่าไปเมื่อเร็ว ๆ นี้แต่ไม่มีบริษัทเข้าประมูล โดยทางองค์การค้าฯ ได้ ขอปรับลดค่ามัดจำ  ให้เป็นไปตามราคาตลาด คือ จากเดิม กำหนดค่ามัดจำอยู่ที่ 72 ล้านบาท เหลือ 44 ล้านบาท ส่วนค่าเช่าที่ดินระยะ 30 ปี ราคา360 ล้านบาทยังคงเดิม ทั้งนี้การปรับลดค่ามัดจำดังกล่าวเป็นไปตามข้อเสนอของบริษัทประเมินราคาที่ดิน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งที่ประชุมให้ความเห็นชอบ โดยเร็ว ๆ นี้องค์การค้าฯ จะเปิดให้มีการประมูลอีกรอบ

ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังอนุมัติให้องค์การค้าฯไปพิจารณาส่วนลดพิเศษ หนังสือค้างสต๊อก ส่วนใหญ่เป็นหนังสือของสสวท. ราคารวมประมาณ 175 ล้านบาท  ให้กับร้านค้าตัวแทน เป็นกรณีพิเศษ  ส่วนสต๊อกสินค้าอื่น ๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะไม่ต้องการให้สินค้าที่ชำรุดออกไปสู่ตลาด  อาจจะต้องมีวิธีการบริหารจัดการเป็นการเฉพาะ ซึ่งต้องเสนอให้คณะกรรมการบริหารองค์การค้าฯ พิจารณา ว่าจะจัดการอย่างไร เพราะการนำไปขายโดยวิธีปกติน่าจะสำให้เสียเวลา และยิ่งทำให้เกิดความสูญเสียมากขึ้นไปอีก โดยอาจจะเสนอให้มีบริษัท ที่มีความสามารถในการทำการตลาดเข้ามาช่วยดำเนินการ แต่ขั้นแรก ต้องเคลียร์ของเน่า ของเสีย ออกก่อน  ขณะเดียวกันยังเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการศธ. พิจารณาการจัดทำวัสดุ อุปกรณ์การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ซึ่งตามกฎกระทรวง จัดอยู่ในวัสดุที่รัฐต้องส่งเสริมสนับสนุน  โดยให้โรงเรียนสามารถจัดซื้อวิธีพิเศษ ได้กับองค์การค้าฯ โดยตรง  ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบโรงเรียนได้รับงบฯ ในส่วนนี้ประมาณ 1.2 แสนบาท ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงให้จัดซื้อโดยวิธีพิเศษได้ไม่เกิน 1.3 แสนบาท ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว จะมีคณะกรรมการจัดซื้อสื่อของศธ. ที่มีรัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธาน ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์กรหลักของศธ.  ทำหน้าที่พิจารณาจัดซื้อสื่อที่เหมาะสมของศธ.