ตลาดสมาร์ทโฟนราคาต่ำ 2 หมื่นระอุ “หัวเว่ย-เสี่ยวหมี่” แข่งโชว์นวัตกรรมชิงมาร์เก็ตแชร์ “เสี่ยวหมี่” ลุยโรดโชว์กระตุ้นตลาดย้ำความคุ้มค่าในราคาเอื้อมถึง “หัวเว่ย” รุกหนักสร้างแบรนด์ตุนพรีเซ็นเตอร์เข้าสังกัด

นายอิงมาร์ หวาง ผู้อำนวยการหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟนหัวเว่ยมียอดขายเป็นอันดับ 2 ของโลก 6 เดือนที่ผ่านมามียอดขายกว่า 100 ล้านเครื่อง โตขึ้น 41% คาดว่าปลายปีนี้จะมียอดขายกว่า 200 ล้านเครื่อง โดยจุดแข็งของหัวเว่ยมาจากนวัตกรรมที่ใช้งบประมาณ 50% ของยอดขายมาพัฒนา

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ยฯ กล่าวต่อว่า ในไทยมีมาร์เก็ตแชร์ 14.7% เป็นอันดับ 2 โดยคงกลยุทธ์มุ่งทำตลาดทุกเซ็กเมนต์ เปิดตัวสินค้าใหม่ทุกไตรมาส เน้นเจาะตลาดระดับกลางมากขึ้น โดยมีสินค้าในกลุ่มกลาง-บน 3 ซีรีส์ ได้แก่ Mate Series เจาะกลุ่มไฮเอนด์วัยทำงาน, P Series ที่เน้นความสวยงาม และ Nova Series ที่เจาะกลุ่มคนที่อยากได้เทคโนโลยีไฮเอนด์ แต่ราคาเบา ๆ

ล่าสุดเปิดตัว “Huawai Nova 3Series” ประกอบด้วย “Huawai Nova 3” ราคา 16,990 บาท และ “Huawai Nova 3i” ราคา 9,990 บาท ที่มีจุดเด่นด้วยกล้อง 4 ตัว และ AI พร้อมดึง “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งในปีนี้จะเน้นสร้างแบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์ กิจกรรมเวิร์กช็อป ขยายแบรนด์ช็อปและเพิ่มบริการหลังการขาย

ขณะที่ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในไทยครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่เพิ่ม โดยกลุ่มสินค้าระดับกลางราคา 5,000-15,000 บาท จะแข่งขันรุนแรงขึ้น เป็นตัวดันมูลค่าตลาดให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้จะประเมินว่าทั้งปีน่าจะมียอดขายรวม 12 ล้านเครื่องใกล้เคียงกับปีก่อน

ด้านนายจอห์น เฉิน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสี่ยวหมี่ กล่าวว่า เสี่ยวหมี่เปิดตัวมาแล้ว 8 ปี ปัจจุบันเป็นที่ 4 ของตลาดโลก มีมาร์เก็ตแชร์ 9.3% ในไตรมาสที่ 2 ของปีเติบโต 48.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ในไทยแม้ยังไม่สามารถเปิดเผยมาร์เก็ตแชร์ได้ แต่เติบโตก้าวกระโดด โดยทำตลาดได้ดีในช่วงราคาต่ำกว่าหมื่นบาท เช่น Redmi 5a, Redmi Note 5 และ A2 ซึ่งเป็นกลุ่มราคาที่แข่งขันค่อนข้างสูง ปีนี้จะออกสินค้ากลุ่มนี้อีก 2-3 รุ่น

“เสี่ยวหมี่ทำตลาดในไทยมาปีกว่า ๆ อุปสรรคใหญ่ คือ แบรนด์อื่น แถมของพรีเมี่ยมเพื่อจูงใจลูกค้า แต่เสี่ยวหมี่โฟกัสที่คุณภาพที่คุ้มราคาให้คนสนุกกับเทคโนโลยีในราคาที่ย่อมเยา ดังนั้นในครึ่งปีหลัง จะเน้นการสร้างความรับรู้ในจุดนี้ให้มากขึ้น ทั้งผ่านสื่อรถไฟฟ้า ทีวี และจัดโรดโชว์เพื่อใกล้ชิดกับผู้ใช้”

แต่ยังไม่มีแผนใช้พรีเซ็นเตอร์ในไทย การจะใช้จะมี 2 ปัจจัย คือ 1.ระยะเวลาทำตลาดที่ต้องนาน 6-7 ปี และ 2.มีส่วนแบ่งตลาดเกิน 10% แต่เสี่ยวหมี่ยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดออนไลน์เช่นเดิม ปัจจุบันแฟนเพจเสี่ยวหมี่มีผู้ติดตามกว่า 400,000 คน และมีกลุ่มลูกค้าอายุตั้งแต่ 18-55 ปี

ล่าสุดจับมือกับ “เอไอเอส” จัดสิทธิพิเศษลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟน 3 รุ่นที่เปิดตัวใหม่ Mi A2 4GB+64GB ราคา 8,990 บาท และ 6GB+128GB ราคา 10,990 บาท, Mi A2 Lite ราคา 6,290 บาท และ Mi 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด 6GB+64GB ราคา 15,990 บาท และ 6GB+128GB ราคา 17,990 บาท