ปธ.กกต.ยินดีว่าที่กกต.ใหม่ แนะเป็นกลางการเมือง-ศึกษากม.ให้ดี เหตุเครื่องมือ-อำนาจเยอะ

“ปธ.กกต. ยินดีว่าที่ 5 กกต.ใหม่ เผย เตรียมงานไว้รองรับหมดแล้ว แนะ ศึกษากฎหมายให้รอบคอบ เนื่องจากมีอำนาจ-เครื่องมือเยอะ พร้อมขอให้ทำงานซื่อสัตย์-สุจริต ยึดความเป็นกลางทางการเมือง

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสนช.มีมติเห็นชอบ 5 รายชื่อว่าที่กกต. ว่า ตนขอแสดงความยินดีกับว่าที่กกต.ชุดใหม่ทั้ง 5 คน ที่ผ่านความเห็นชอบจากสนช. โดยขั้นตอนต่อไปทั้ง 5 คนต้องไปลาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่ง จากนั้นว่าที่กกต.ทั้ง 5 คนก็ต้องมาประชุมเพื่อเลือกบุคคลเพื่อทำหน้าที่เป็นประธานกกต. เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทางประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป ส่วนการเตรียมงานของสำนักงานฯขณะนี้เราได้เตรียมงานไว้รองรับกกต.ชุดใหม่ไว้ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระเบียบ ประกาศ วัสดุอุปกรณ์ เชื่อว่าการทำงานไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกทั้งพนักงาน ผู้บริหารของสำนักงานฯก็มีประสบการณ์การทำงานมาก เชื่อว่าจะช่วยทำงานได้เป็นอย่างดี

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า เนื่องจากกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ให้อำนาจและเครื่องมือกกต.ในการจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม ดังนั้นจึงอยากฝากให้กกต.ชุดใหม่ ศึกษาข้อกฎหมายให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด ทั้งนี้ สำหรับว่าที่กกต.ใหม่ 2 ท่านที่มาจากการคัดเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เท่าที่เคยร่วมงานกันมาเป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนเก่ง ส่วนท่านอื่นๆที่เหลืออีก 3 ท่านไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ทุกท่านล้วนมีความสามารถ มีประสบการณ์การทำงาน เชื่อว่าจะทำงานได้โดยไม่มีปัญหา ขอให้พนักงานและเจ้าหน้าที่สบายใจได้

“อยากฝากทุกคนที่มาทำหน้าที่เป็นกกต.ขอให้อดทน อดกลั้น ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก มีความเป็นกลางทางการเมือง ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ต้องศึกษาข้อกฎหมายเยอะๆเพราะเรามาอยู่ตรงนี้มีผู้ส่วนได้ส่วนเสียมาก หากเราไม่เป็นกลางก็จะเจ็บตัวได้” ประธานกกต. กล่าว

นายศุภชัย กล่าวต่ออีกว่า แม้ขณะนี้จะได้รายชื่อว่าที่กกต.เพียง 5 คน ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาในการทำงาน ส่วนอีก2คนที่จะต้องมีการสรรหาใหม่นั้น เห็นว่าเป็นเรื่องของกรรมการสรรหาจะใช้ดุลยพินิจว่าควรใช้วิธีทาบทามหรือไม่ ส่วนตัวไม่ขอให้ความเห็น แต่อย่ามองว่า 2คนที่จะเข้ามาทีหลังจะกลายเป็นปลา2น้ำ เพราะเข้ามาภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน อีกทั้งจะมองว่าเป็นปลา2น้ำไม่ได้เพราะอนาคต กกต.ก็เกษียณไม่พร้อมกัน ทำให้ต้องมีการสรรหาเข้ามาใหม่อยู่ดี