อัยการฟ้อง ‘เนติวิทย์ -กลุ่มอยากเลือกตั้ง’ รวม 45 คน ฐานขัดคำสั่งคสช. -ผิดพ.ร.บ.จราจรฯ

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) ได้ยื่นฟ้อง นายเนติวิทย์ หรือแฟรงก์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 21 ปี นักกิจกรรมนักศึกษา ปัจจุบันศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ชุมนุมบริเวณกองทัพบก หรือที่เรียกกันว่า “ARMY57” และนายวิศรุต อนุกูลการย์ อายุ 23 ปี กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ (NDM) และพวกรวม 45คน เป็นจำเลยที่ 1-45 ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522  พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

กรณีเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 61 ได้จัดปราศรัย “รวมพลังถอนราก คสช.” ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยมีการนัดหมายให้มารวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 24 มีนาคม เวลา 16.00 น. ซึ่งวันที่ 24 มีนาคมได้รวมตัวกันที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการอ่านแถลงการณ์และเปิดการปราศรัยชุมนุมบนรถ 6 ล้อเครื่องขยายเสียงติดเครื่องเสียง โจมตีที่เลื่อนการเลือกตั้ง รวมทั้งการทํางานของรัฐบาล และคสช.ว่ามีการทุจริต ใช้อํานาจโดยไม่เป็นธรรม กระทั่งเวลาประมาณ 17.40 น. ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนเดินเท้าไปยัง กองบัญชาการกองทัพบก
โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1229/2561 และนัดตรวจหลักฐานพร้อมสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดในวันที่ 12 กรกฎาคม นี้ เวลา 09.00 น. ขณะที่จำเลยทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกัน แต่ศาลให้ทั้งหมดสาบานตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเนติวิทย์ นักกิจกรรมนักศึกษานั้น ก่อนหน้านี้ก็ถูกยื่นฟ้องร่วมกับ นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ , นายปิยรัฐ จงเทพ นายกสมาคมเพื่อเพื่อน และกลุ่มผู้ชุมนุมรวม 40 คน คดีที่เกี่ยวกับการการชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งบริเวณราชดำเนิน หรือ “RDN50” ต่อศาลแขวงดุสิต มาแล้ว ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 จากการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ คสช.ยุติการสืบทอดอำนาจและจัดการเลือกตั้งภายในปี 2561 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์61 ซึ่งศาลแขวงดุสิต นัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานในวันที่ 4 มิถุนายน นี้ เวลา 09.00 น. หลังจากจำเลยทั้ง 40 รายให้การปฏิเสธ ขณะที่ทั้งหมดก็ได้รับการปล่อยตัวไป เพราะศาลเห็นว่าข้อหาที่ฟ้องและอัตราโทษไม่ร้ายแรง