เงาปีศาจ : ความทรงจำฟุตบอลโลก เคาต์ดาวน์สู่ “รัสเซีย 2018”

ฟุตบอลโลก 2018 กำลังจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ที่ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561

เวิลด์คัพในความทรงจำของผมเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1986 ที่ประเทศเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ ตอนนั้นผมเริ่มต้นดูฟุตบอลครั้งแรกในสมัยเด็กๆ ครั้งนั้นผมจำใจต้องดูทั้งที่ยังไม่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ไม่รู้กฎ ไม่รู้กติกา แต่ดูเพราะที่บ้านเปิดดูการถ่ายทอดสดกันทั้งบ้าน แบบว่าแย่งเราดูการ์ตูน

จำได้ว่า รอบชิงชนะเลิศ “ฟ้า-ขาว” “อาร์เจนตินา” ที่นำทัพโดย “ดิเอโก้ มาราโดน่า” เทพฟุตบอลในยุคนั้น เอาชนะเยอรมนีตะวันตกไป 3-2 ประตู ว่ากันตามตรงเราก็ไม่ค่อยอินกับบรรยากาศเท่าไหร่นัก

แต่มันมีจุดไคลแมกซ์ที่ผมยังจำได้คือ ลูกหัตถ์พระเจ้าที่มาราโดน่าเขี่ยทีมชาติอังกฤษร่วงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้ผมยังจำลูกนั้นได้เป็นอย่างดี

 

ต่อมาอีก 4 ปี เป็นฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี ตอนนั้นผมเริ่มสนใจและหลงเสน่ห์กีฬาฟุตบอล

ผมดูฟุตบอลโลก 1990 เกือบทุกแมตช์ที่ถ่ายทอดสด (เลิกดูการ์ตูน)

อีกอย่างคือ แรงกระตุ้นจากเพื่อนที่โรงเรียน ญาติพี่น้องรายรอบบ้านก็ดูกัน พูดกันแต่ฟุตบอลโลก ผมก็เลยดู และจดจำได้ขึ้นใจกับเพลงประจำฟุตบอลโลก 1990 “To be number one”

ครั้งนั้นเป็นต้นมาผมไม่เคยพลาดดูฟุตบอลโลกเลย ตอนเด็กๆ ผมเป็นแฟนบอลของ “อัศวินสีส้ม” “ฮอลแลนด์” เพราะชื่นชอบ 3 ทหารเสืออย่าง “มาร์โก แวน บาสเท่น, แฟรงก์ ไรจ์การ์ด” และ “รุด กุลลิต” ที่ผนึกกำลังกันพาทีมกังหันลมคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 1988 บนแผ่นดินอินทรีเหล็ก

ต่อมาผมแอบปันใจไปเชียร์ทีม “อัซซูรี่” “อิตาลี” ในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา เพราะตามกระแสชื่นชอบสุดหล่ออย่าง “โรแบร์โต้ บาจโจ้”

แต่สุดท้ายบาจโจ้ก็ต้องเจอฝันร้ายเพราะดันซัดจุดโทษข้ามคาน ยื่นแชมป์โลกสมัยที่ 4 ในตอนนั้นให้ “แซมบ้า” “บราซิล”

 

จับพลัดจับผลูอีท่าไหนจำไม่ได้ ผมกลับกลายมาเป็นกองเชียร์ “สิงโตคำราม” “อังกฤษ” จนถึงปัจจุบัน อาจเพราะได้ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากที่สุดในโลก มากกว่ากัลโช่ เซเรียอา อิตาลี, บุนเดสลีก้า เยอรมนี, ลาลีก้า สเปน, ลีกเอิง ฝรั่งเศส ฯลฯ

ผมเอาใจช่วยให้” “สิงโตคำราม”” ในยุค 1990 ที่มี “พอล แกสคอยน์” เป็นตัวขับเคลื่อนในแดนกลาง แต่อังกฤษก็เหมือนต้องมนต์สะกดให้ไม่ประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก หลังจากก้าวไปถึงแชมป์โลกเมื่อปี 1966

นี่เป็นฟุตบอลโลกหนที่ 8 ที่ผมจะได้ติดตาม

และผมยังยืนยันว่า ผมเลือกที่จะเชียร์” “สิงโตคำราม””

แม้ว่าสิงโตคำรามชุดนี้จะขี้ริ้วขี้เหร่ตั้งแต่ตัวนักเตะจนถึงตัวผู้จัดการทีมอย่าง “แกเร็ต เซาธ์เกต” อดีตปราการหลังรุ่นพี่ทีมชาติจอมเหวอนั่นแหละ

อังกฤษชุดนี้ นายด่านปราการสุดท้าย “แจ๊ก บัตแลนด์, นิก โป๊ป, จอร์แดน พิกฟอร์ด” โนเนมทั้งหมด กองหลังมีดีแค่ “แกร์รี่ เคฮิลล์, แดนนี่ โรส” และ “ไคล์ วอล์กเกอร์” ส่วนพวกที่เหลือ “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟิล โจนส์, จอห์น สโตนส์, คีแรน ทริปเปียร์” และ “แอชลี่ย์ ยัง” ล้วนแต่คลาสไม่ถึงฟุตบอลโลก โดยเฉพาะ “ฟิล โจนส์” จากค่ายอสูรแดง ติดทีมมาได้ไง (ฟ่ะ)

แดนกลางของสิงโตคำรามชุดลุยรัสเซีย 2018 ค่อยดีขึ้นมาหน่อย มีทั้ง “เดเล อัลลี่, เฟเบียน เดลฟ์, เอริก ดายเออร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจสซี่ ลินการ์ด, รูเบ็น ลอฟตัส-ชีก” และ “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง” ส่วนแดนหน้าก็มีดาวยิงพรสวรรค์สูงอย่าง “แฮร์รี่ เคน” ที่พอฝากผีฝากไข้ได้ ส่วนที่เหลืออีก 3 ราย “มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจมี่ วาร์ดี้” และ “แดนนี่ เวลเบ็ก” คลาสบอลไม่ถึง

ฟุตบอลโลก 2018 ทีมชาติอังกฤษ ถูกจับสลากอยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับ “ปีศาจแดงยุโรป” “เบลเยียม, ปานามา” และ “ตูนิเซีย” แม้ว่าอังกฤษชุดนี้จะดูขี้เหร่อย่างไรก็ตาม แต่หากไม่สามารถตามเบลเยียมที่มีสตาร์ดังล้นทีมเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ก็ไปบวชกันแบบยกทีมเถอะ

อย่างน้อยๆ อังกฤษชุดนี้ต้องเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนปานามา กับตูนิเซีย เป็นแค่ไม้ประดับเท่านั้น

 

มาดูกันทีละกลุ่ม เริ่มจากกลุ่มเอ ประกอบด้วย “เจ้าภาพ” “รัสเซีย”, “เศรษฐีน้ำมัน” “ซาอุดีอาระเบีย”, “ฟาโรห์” “อียิปต์” และ “จอมโหด” “อุรุกวัย” กลุ่มนี้คงแย่งกันเข้ารอบอันดับ 1 กับ 2 ของกลุ่มระหว่าง “เจ้าภาพ” กับอุรุกวัย และผมไม่เชื่อว่าอียิปต์ที่มีเทพเจ้าอย่างโม ซาลาห์ ตัวเดียวจะพาทีมไปได้ไกล ส่วนซาอุฯ ไม่ต้องพูดถึง กินบ๊วยมาแต่ไกล

กลุ่มบี ประกอบด้วย “ฝอยทอง” “โปรตุเกส”, “กระทิงดุ” “สเปน”, “โมร็อกโก” และ “อิหร่าน” กลุ่มนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะสเปนกับโปรตุเกสจะจูงกันเข้ารอบ 16 ทีมแบบสบายๆ ทีมใดจะเข้าอันดับ 1 ของกลุ่มต้องดูในนัดที่เจอกันเองของทั้งคู่ ส่วนโมร็อกโกยังน่าจะจบอันดับ 3 ของกลุ่ม ปล่อยให้มาตรฐานบอลเอเชียอย่างอิหร่านกินบ๊วยเหมือนซาอุฯ

กลุ่มซี ประกอบด้วย “ตราไก่” “ฝรั่งเศส”, “จิงโจ้” “ออสเตรเลีย”, “เปรู” และ “โคนม” “เดนมาร์ก” กลุ่มนี้อดีตแชมป์โลก 1 สมัยอย่างฝรั่งเศส แบเบอร์คว้าอันดับ 1 ของกลุ่มชนิดต้องเก็บ 9 แต้มเต็มเท่านั้นอีกต่างหาก ส่วนอันดับ 2 คงวัดกันระหว่างออสเตรเลียกับเดนมาร์ก ปล่อยให้เปรูน่าจะรั้งบ๊วยแม้ผลงานในเกมอุ่นเครื่องจะสวยหรูก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าสุดท้าย “โคนม” จะเข้ารอบตามฝรั่งเศส

กลุ่มดี ประกอบด้วย “ฟ้า-ขาว” “อาร์เจนตินา”, “ไอซ์แลนด์”, “ตาหมากรุก” “โครเอเชีย” และ “อินทรีมรกต” “ไนจีเรีย” กลุ่มนี้ดูไม่ยากเหมือนกันเพราะ “ฟ้า-ขาว” ที่มีมนุษย์ต่างดาวร่วมทีมมาด้วย 1 คนนั่นคือ “ลิโอเนล เมสซี่” คงยึดแชมป์กลุ่ม ส่วนอันดับ 2 ของกลุ่มผมเชื่อว่าบอลโครแอตที่แดนกลางปึ้กสุดๆ มีทั้ง “ลูก้า โมดริช, อิวาน ราคิติช, มาเตโอ โควาซิช” คอยคุมเกม แถมแดนหน้ามี “มันด์ซูคิช” กับ “อิวาน เปริซิช” น่าจะตามฟ้า-ขาวเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม ปล่อยให้ไอซ์แลนด์กับไนจีเรียหอบกระเป๋ากลับบ้านแน่นอน

กลุ่มอี ประกอบด้วย “บราซิล, สวิสเซอร์แลนด์, คอสตาริก้า” และ “เซอร์เบีย” กลุ่มนี้ไม่มีใครสู้บราซิล นอนมาแต่ไกลในตำแหน่งแชมป์กลุ่ม เพราะแต่ละตัวที่ขนมา อาทิ “เนย์มาร์, คูตินโญ่, เฆซุส, คาเซมิโร่, มาร์เซโล่” ล้วนแต่เป็นตัวเทพๆ ทั้งนั้น ส่วนรองแชมป์กลุ่มคงขับเคี่ยวกันมันหยด สุดท้ายผมเชื่อว่าบอลเซิร์บจะได้เปรียบที่สุด เพราะแดนกลางมีทั้ง “เนมันย่า มาติช, มิลินโควิช ซาวิช, ดูซาน ทาดิช” จะช่วยให้ทีมคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมได้

กลุ่มเอฟ ประกอบด้วย แชมป์โลกหนล่าสุด “อินทรีเหล็ก” “เยอรมนี”, “จังโก้” “เม็กซิโก”, “ไวกิ้ง” “สวีเดน”, “โสมขาว” “เกาหลีใต้” กลุ่มนี้อินทรีเหล็กต้องแชมป์กลุ่มสถานเดียวเท่านั้น ส่วนอันดับ 2 ของกลุ่มต้องวัดมาตรฐานกันระหว่างเม็กซิโกกับสวีเดน ซึ่งผมบอกตรงๆ ว่าดูแทบไม่ออก แต่ผมเลือกเม็กซิโกจะดีกว่าเพราะมีบอลลคอนโทรลที่สวยงามกว่า ส่วนโสมขาวมีแต้มถือว่าเก่งแล้ว

ปิดท้ายที่กลุ่มเอช ประกอบด้วย “โปแลนด์, เซเนกัล, โคลอมเบีย” และ “ญี่ปุ่น” กลุ่มนี้บอกตามตรงไม่มีอะไรน่าดู น่าลุ้น ซึ่งผมยังเชื่อว่าโปแลนด์ที่มี “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” เป็นหัวหอก น่าจะจูงมือโคลอมเบียที่มี “ฮวน กัวดราโด้, ราดาเมล ฟัลเกา, คาร์ลอส บัคคา, หลุยส์ มูเรียล” และ “กูเตียร์เรซ” เป็นตัวชูโรง เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปทั้งคู่ ส่วนเซเนกัลกับญี่ปุ่นคงชิงอันดับ 3 ของกลุ่มจากนัดที่เจอกันนั่นแหละ

นัดเปิดสนามวันที่ 14 มิถุนายน เวลา 22.00 น. (ตามเวลาเมืองไทย) รัสเซียจะพบกับซาอุดีอาระเบีย

ฟุตบอลโลก 2018 มหกรรมอดนอนในรอบ 4 ปีมาถึงแล้ว เตรียมตัวกันให้ดีๆ…