แมลงวันในไร่ส้ม/ข่าวฮ็อต-เซ็งแซ่ ถามอนาคต “บิ๊กตู่” ตั้งพรรค-สมัคร ส.ส.?

แมลงวันในไร่ส้ม

ข่าวฮ็อต-เซ็งแซ่ ถามอนาคต “บิ๊กตู่” ตั้งพรรค-สมัคร ส.ส.?

ถ้าประมวลจากบรรยากาศ และคำถามระยะนี้ ประเด็นยอดนิยมที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องเผชิญในแต่ละวัน คือ จะอยู่ต่อไป จะลง ส.ส. ไหม จะตั้งพรรคการเมืองหรือไม่

กลายเป็นข่าวต่อเนื่องในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ต่างๆ

วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เปิดการประชุมประจำปี 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พร้อมกล่าวปาฐกถาเรื่อง “ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคตประเทศไทย” ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม เมืองทองธานี

ตอนหนึ่งระบุว่า วันนี้เราต้องเร่งเดินเข้าสู่เส้นชัย ซึ่งโรดแม็ปของรัฐบาลได้กำหนดและวางแผนงานไว้ทั้งหมดแล้ว โดยเป็นการวางตามขั้นตอน 1-2-3

ย้อนกลับไปดูประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เคยมีการเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปเศรษฐกิจมาครั้งหนึ่ง มีเศรษฐกิจที่โชติช่วงชัชวาล มีการแปลงสนามรบเป็นสนามการค้า

แต่จากนั้นมาก็คงสภาพเดิม วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งขณะนี้เราอยู่ในช่วงที่ 2 ของแผนการปฏิรูป ก่อนที่จะส่งต่อไปยังรัฐบาลหน้า

ตอนนี้ดำเนินการตามแผน 12 มาได้ 9 เดือน ถ้าเดินตามแผนนี้ได้ก็จะสามารถส่งต่อไปยังแผนต่อไปได้ ซึ่งอีก 20 ปี ประเทศไทยก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

และกล่าวถึงประเด็นทางการเมืองว่า

“…หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทีวีทุกช่องวุ่นวายอยู่กับเรื่องของผม ที่ว่าจะเลือกตั้งหรือไม่ บ้าบอคอแตกกันอยู่นั้น วันนี้จะเป็นจะตาย เพราะฉะนั้น อย่าไปสนใจใครอยากพูดอะไรก็พูดไป มันเรื่องของผม ตอบชัดเจนแบบนี้แล้ว อย่ามาถามผมอีก ถามกันอยู่ได้”

สาเหตุของความ “บ้าบอคอแตก” นั้น มาจากความเคลื่อนไหวใน “แม่น้ำ 5 สาย” นั่นเอง

หน้าการเมืองไทยรัฐ ฉบับ 1 กรกฎาคม ระบุว่า หลังจาก สปท. เปิดไต๋ชัดๆ ทิ้งเก้าอี้ก่อนเวลาเพื่อเตรียมแต่งตัวลงสนามการเมือง ก่อนครบเดดไลน์ 90 วัน ตามรัฐธรรมนูญ

อ่านไต๋ได้ว่า ผู้มีอำนาจเตรียมตั้ง “พรรคทหาร”

พร้อมกับชี้ว่า สำนักโพลช่วยแตกประเด็น สรุปผลสำรวจความเห็นประชาชน ไม่ขัดข้องหากจะมีการตั้งพรรคการเมืองหนุน คสช. ชี้ทำนอง “ทางโล่ง” ค่าย “เขียวลายพราง” ในคิว “ต่อท่ออำนาจ”

เลยคิดแทนผู้นำ อ่านทางบิ๊ก คสช. กันเจี๊ยวจ๊าวเลย

รายงานชี้ว่า ถ้าโฟกัสไปที่ตัวละครเอก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. รอบนี้ถึงไม่ตอบรับ แต่ไม่เสียงแข็งบอกปัดเช่นเคย

“สถานการณ์จะเป็นตัวชี้ชัดต่อไปเอง”

ล่าสุด ถูกบี้ให้พูดให้ชัดปมนี้ “บิ๊กตู่” กลับมาปฏิเสธ “ไม่ใช่เวลาจะตอบ”

ไม่มัดคอให้โดนเสียงสวด “เสียสัตย์” ในวันข้างหน้า

แต่เพียงแค่กั๊กๆ เท่านี้ บรรดา “นักอ่านทาง” อำนาจ รอปั่นกระแสก็คึกคักในฉับพลัน ทั้งที่ประเภทมีโบรกเกอร์ “นายหน้าผู้มีอำนาจ” มาทาบทามจริง ทั้งที่ใช้วิชาปั่นค่าตัว เร่ง “โชว์ของ” กันยกใหญ่

เตรียมเสลี่ยงรอหาม “บิ๊กตู่” กันพร้อมเพรียง

ทั้ง นายสมพงษ์ สระกวี ที่ทิ้งเก้าอี้ สปท. ประกาศจะรวมกับ “เพื่อน ตท.12” ของนายกฯ ไปผนึกกับพรรคเล็กๆ เป็นพรรคกลางๆ พอดีคำ โดยยกชื่อ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ มาเอี่ยว

เข้าเค้ากระแสข่าวอดีตบิ๊ก คมช. กำลังซุ่มเตรียม “งานใหญ่” อยู่เหมือนกัน

ยังไม่รวมค่ายที่เปิดตัวรอแล้วเพียบ อาทิ พรรคประชาชนปฏิรูป ที่รออุ้ม “บิ๊กตู่” เต็มแรง พรรคพลังท้องถิ่นไท มีข่าวเป็นหนึ่งในค่ายการเมืองใหม่ ที่มี “ชัชวาลย์ คงอุดม” อดีต ส.ว.กทม. เป็นสปอนเซอร์

ผู้ยิ่งใหญ่แห่งย่านเตาปูนรายนี้ก็แน่นปึ้กกับ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ ที่อีกทางก็มีข่าวเชื่อมต่อคอนเน็กชั่นเครือข่ายเก่าในพรรคเพื่อไทย ที่เคยร่วมงานกันมาสมัยยุครัฐบาลทักษิณ

นอกจากนี้ บรรดา “ดีลเมกเกอร์” สายต่างๆ ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหว ทั้งข่าวดีลป้อมค่ายในสายเอสเอ็มอี การรวมตัวจัดตั้งสโมสรอดีต ส.ส. การเคลื่อนไหวของข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่นพื้นที่เมืองหลวงผิดปกติ

พร้อมๆ กับบิ๊กเนมการเมืองอย่าง “เดอะจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. หรือ “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กระทั่ง “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.

มืองานคอนเน็กชั่นกว้างขวาง เริ่มถูกเอ่ยถึงถี่ในช่วงนี้

รายงานของไทยรัฐยังระบุอีกว่า 2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย ถึงแม้ไม่ถูกเอ่ยอ้างถึง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปิ๋วจากแผนอำนาจ

เพราะเอาเข้าจริง แม้กฎกติการัฐธรรมนูญใหม่จะเอื้อให้พรรคขนาดกลางขนาดย่อม แต่ก็ไม่น่าจะได้ ส.ส. มากเท่าไหร่นัก

ยังไงก็ต้องพึ่งพาเสียงพรรคใหญ่ประเภท 100 แต้มขึ้นเป็นหลัก

หากจะตามรอยสูตรสำเร็จ “รัฐบาลผสม” ฉบับ “ป๋าโมเดล”

เพียงแต่จะเป็นค่ายไหน ปชป.-เพื่อไทย คอการเมืองก็คงมองออก

นั่นก็ไม่แปลกที่คนค่าย ปชป. จะออกลูกเฮี้ยวใส่อำนาจพิเศษบ่อยๆ เหมือนมั่นใจยังไงก็อยู่ในข่าย “ถูกเลือก” ตามสูตรบังคับ

อย่างไรก็ตาม ไทยรัฐเตือนทิ้งท้ายว่า สายลมของการเปลี่ยนแปลงในช่วงเปลี่ยนผ่านไม่มีอะไรแน่นอน

บางครั้งผกผัน พัดมาวูบเดียว พลิกทิศเปลี่ยนทางกันเลย

คอมเมนต์ที่น่าสนใจ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ว่า คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งใจจะเป็นนายกฯ แต่คงไม่กล้าประกาศตอนนี้ และคงจะเป็นนายกฯ คนนอกโดยไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง

“เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คสช. และแม่น้ำ 5 สายพูดตลอด คือนักการเมืองและพรรคการเมืองเลวร้ายเป็นตัวปัญหา การเลือกตั้งไม่ได้แสดงว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย

ฉะนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ จากการเลือกตั้ง ก็เท่ากับมาทำในสิ่งที่ตัวเองประณามไว้

แต่ในเชิงระบบแล้วแม่น้ำ 5 สายได้ออกแบบรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกเพื่อให้มีนายกฯ คนนอก ไม่ใช่นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการให้รัฐบาลทำตามแผนปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า

จึงต้องตั้งพรรคมารวบรวมผู้สนับสนุน แม้มี ส.ว. 250 เสียง แต่การเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ต้องมีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง พรรคที่ตั้งใหม่จะเป็นเชื้อเริ่มต้น รวมกับ ส.ว. และพรรคขนาดกลางให้ได้จำนวนเพียงพอแล้ว ก็ตั้งรัฐบาลได้

แล้วหาพรรคการเมืองอื่นหรือพรรคการเมืองที่ใหญ่กว่าเข้าไปร่วม ไม่ว่า คสช. จะอยู่ต่อไป หรือยืดวันเลือกตั้งออกไป หรือจะมีการเลือกตั้งก็หนีไม่พ้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ยังคงมีอำนาจต่อไป” นายจาตุรนต์ กล่าว

ข่าวคราวการเมืองระยะนี้ บ่งบอกว่า การเมืองกำลังเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ก่อนหน้าจะไปถึงการเลือกตั้งในปี 2561 หรือ 2562