ภาพยนตร์ : HYPNOTIC ‘สะกดจิต’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

 

 

HYPNOTIC

‘สะกดจิต’

 

กำกับการแสดง

Matt Angel และ Suzanne Coote

 

นำแสดง

Kate Siegel

Jason O’Mara

Dule Hill

Jaime M. Cullica

 

Hypnotic เป็นหนังเขย่าขวัญเรื่องใหม่ทางเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งออกมาในช่วงเทศกาลปล่อยผี หรือฮัลโลวีนของโลกตะวันตก

บอกเสียเลยก็ได้ว่า หนังไม่ได้ให้ประสบการณ์แปลกใหม่ หรือชวนตื่นเต้นอะไรนักหนา นอกไปจากความระทึกใจเล็กๆ น้อยๆ ของเรื่องราวที่คาดเดาทิศทางได้ไม่ยาก

เสน่ห์ชวนดึงดูดใจที่สุดของหนังคงจะมาจากนางเอกสุดสวย เคต ซีกัล นี่เอง

เราอาจจะเคยเห็นหน้าค่าตาของเธอมาแล้วในหนังธริลเลอร์หลายเรื่อง อย่างเช่น Oculus, Hush, Ouija : Origin of Evil และหนังชุดทางเน็ตฟลิกซ์ The Haunting of Hill House

เห็นหน้าสวยๆ ผุดผ่องอิ่มเต็มของเคต ซีกัล แล้ว ทำให้นึกถึงนักแสดงสาวสุดสวยในวงการหลายคน อย่างเช่น Liv Tyler (คงยังจำ “อาร์เวน” ใน Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring กันได้นะคะ)

และแม้แต่แคทรียา แมคคินทอช ของไทยเรา ก็มีส่วนละม้ายไม่น้อย

และในหนังเรื่องนี้ ความงามสมบูรณ์แบบของเธอก็เป็นเครื่องล่อเธอเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายอย่างที่ไม่มีใครต้องการ

 

หนังเปิดเรื่องด้วยภาพของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังอยู่ในอาคารสำนักงานตามลำพังในยามวิกาล เธอหวาดกลัวและระแวงว่ามีใครหรืออะไรกำลังปองร้ายเธออยู่ เธอโทรศัพท์หาตำรวจ แต่ก็ไม่สำเร็จ

เธอเข้าไปในลิฟต์คนเดียวอย่างกลัวๆ กล้าๆ และเมื่อลิฟต์ปิดลง เธอตะลีตะลานรับโทรศัพท์โดยเข้าใจว่าเป็นสายโทร.กลับของนักสืบที่เธอเพิ่งจะโทร.หา แต่ปรากฏว่าเป็นเสียงของผู้ชายคนอื่น ซึ่งกล่าวถ้อยคำสั้นๆ เพียงประโยคเดียว

และแล้วผนังลิฟต์ก็บีบเข้าหาเธอจากสองฝั่ง…เธอหวาดกลัวสุดขีด…ไม่มีทางหนีรอดไปไหนพ้น…

แต่หญิงสาวในตอนเปิดเรื่องคนนี้ไม่ใช่นางเอกของเรื่อง

 

นางเอกของเรื่องคือ เจนน์ (เคต ซีกัล) ผู้กำลังตกอยู่ในภาวะสูญเสียอย่างหนักทั้งในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน

เจนน์หมกตัวอยู่กับตัวเองเยี่ยงคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต แทบไม่ยอมพบปะผู้คน

และเพียงออกจากบ้านมางานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนสนิท ซึ่งเปิดประตูออกมารับ และพบเจนน์ยื่นกระถางต้นไม้เหี่ยวๆ ให้ตามธรรมเนียมของแขกที่มาร่วมงาน โดยบอกว่าเธอซื้อไวน์มาเตรียมไว้ให้เป็นของขวัญ แต่ก็ดื่มหมดไปแล้ว เลยเอาต้นไม้ที่บ้านติดมือมาฝากแทน แต่ความปล่อยปละละเลยสิ่งรอบตัว ทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาไปแล้ว

และนั่นคือเมื่อตอนที่เพื่อนสนิทของเจนน์ทำท่าไม่อยากให้เจนน์เข้าไปร่วมงาน เนื่องจากมีแขกมางานอีกคนที่ได้รับเชิญในนาทีสุดท้าย เนื่องจากเจ้าภาพไม่คิดว่าเจนน์จะมาร่วมงาน

แขกคนนั้นคือไบรอัน (เจมี เอ็ม. คัลลิกา) ซึ่งเป็นอดีตคู่หมั้นของเจนน์ที่เลิกรากันไปด้วยสาเหตุที่ยังไม่แจ้งชัด

แต่ก็ดูเหมือนยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่ไม่น้อย

 

ในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนรัก เจนน์ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ ดร.คอลลิน มี้ด (เจสัน โอมารา…อีกครั้งที่เห็นแล้ว ดูเหมือนเคยเห็นหน้าตาแบบนี้มาก่อน แล้วก็นึกออกว่ามีหน้าตาละม้ายแม้น บิล พูลแมน นั่นเอง)

ดร.มี้ดได้รับการแนะนำว่าเป็นจิตแพทย์ประจำตัวของจีนา เพื่อนรักผู้ห่วงใยสุขภาพจิตของเจนน์มาก

เจนน์เอ่ยถึงความผิดปกติอย่างหนึ่งซึ่งเธอสังเกตเห็นและปากไวพูดออกมาทันที คือ เธอเข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างจิตแพทย์กับคนไข้น่าจะอยู่ในแวดวงอาชีพเท่านั้น โดยไม่ขยายออกมาเป็นความสัมพันธ์ในวงสังคม

แต่ ดร.มี้ดก็ตอบข้อขัดข้องด้านจริยธรรมระหว่างความสัมพันธ์ของแพทย์กับคนไข้ได้อย่างคล่องแคล่วลื่นไหลและดูเป็นเหตุเป็นผล

ก่อนจากกัน เขาทิ้งนามบัตรไว้ให้เจนน์โดยหวังว่าเขาจะช่วยเจนน์ได้ในโอกาสต่อไป

 

ในแง่ของความประดักประเดิดระหว่างเจนน์กับไบรอัน ที่บังเอิญมาเจอกันเข้าในงานโดยไม่ได้ตั้งใจ เห็นได้ชัดว่าเจนน์ยังตัดใจไม่ขาดจากไบรอัน แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่เป็นประดุจหุบเหวขวางกั้นระหว่างคนทั้งคู่

เจนน์ยังตกอยู่ในสภาพเศร้าซึมหดหู่อย่างหนัก อดีตยังคงตามหลอกหลอนอยู่ ทำให้ไม่สามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้

และด้วยการยุยงสนับสนุนของเพื่อนรัก เจนน์ยอมไปรับการบำบัดจาก ดร.มี้ดเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ดูมีอะไรไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง

เพราะเขาใช้การบำบัดด้วยการสะกดจิต ซึ่งทำให้เจนน์ไม่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับตัวเธอในช่วงที่รับการบำบัดอยู่นั้น

ผู้เขียนเคยนึกถึงเรื่องการสะกดจิตบ่อยๆ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหนังอาชญากรรมหรือหนังสยองขวัญหลายเรื่อง พาลทำให้นึกว่าตัวเองคงไม่ยอมให้ใครมาสะกดจิตแน่ เพราะผู้ถูกสะกดตกอยู่ในสภาพของผู้เสียเปรียบทุกประการ เป็นการใช้อำนาจจิตบังคับบัญชากลไกการทำงานของจิตใต้สำนึก ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของสมองในยามปกติ

น่ากลัวพิลึกล่ะ ถ้าจะให้มีใครเอาอะไรมาใส่ไว้ในหัวของเรา โดยเราไม่รู้ตัว และสั่งการให้เราทำอะไรเหมือนเป็นหุ่นยนต์ใต้บังคับบัญชา

ในกรณีเช่น เข้าไปกระตุ้นความหวาดกลัวระดับพื้นฐาน ทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบที่เหนือการควบคุมของผู้ถูกสะกดจิต

 

หนังสยองขวัญทั้งหลายมักกำหนดให้จิตแพทย์เป็นโรคจิตเสียเอง ซึ่งชวนให้สยดสยองอย่างยิ่ง เพราะการถูกควบคุมจิตไว้ในบังคับบัญชาของผู้อื่น ย่อมเป็นสิ่งที่เราทั้งหลายไม่ปรารถนา

น่าจะคาดเดาได้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไรในหนังประเภทนี้ จะผิดไปก็แต่รายละเอียดของเหตุการณ์และสถานที่

ใครใคร่ดูและมีเวลาจะดู ก็เชิญดูนะคะ อาจจะเข้ากับบรรยากาศของช่วงฮัลโลวีนดีก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ดู ก็ไม่ถึงกับพลาดอะไรไปหรอกค่ะ