ภาพยนตร์ : PAPER LIVES ‘หนังดีจากตุรกี’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

 

PAPER LIVES

‘หนังดีจากตุรกี’

 

กำกับการแสดง

Can Ulkay

นำแสดง

Cagatay Ulusoy

Emir Ali Dogrul

Ersin Arici

Turgay Tanuiku

 

เท่าที่จำได้ หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังตุรกีเรื่องแรกที่เคยได้ดู แต่ผู้เขียนได้เคยรู้จักมักคุ้นกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของตุรกี ดาราหนังคนดังๆ ในช่วงทศวรรษ 1970 บรรยากาศการฉายหนังกลางแปลงซึ่งเป็นมหรสพที่นิยมกันในหมู่คนชั้นกลางไปถึงชั้นล่างในกรุงอิสตันบูล รวมทั้งเนื้อหาของหนังยอดนิยมหลายต่อหลายเรื่องในตุรกี

เหตุก็เพราะเคยแปลนวนิยายของออร์ฮัน ปามุก นักเขียนตุรกีที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในแวดวงนานาชาติและเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม

นวนิยายชื่อ พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา (The Museum of Innocence) เล่าเรื่องของเคมาล หนุ่มรูปหล่อพ่อรวยที่มีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า แต่มาหลงรักปักใจอยู่กับฟูซุน สาวน้อยแสนสวยผู้ยากจน ผู้ฝันใฝ่จะได้เป็นดาราหนัง เพื่อถีบตัวขึ้นจากสถานะทางสังคมที่ต่ำต้อย ฟูซุนมีสามีเป็นนักสร้างหนังและหวังจะให้เคมาลลงทุนสร้างหนังให้เธอเล่น

เคมาลจึงตระเวนไปสำรวจตลาดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยไปดูหนังกลางแปลงที่ฉายตามย่านชุมชน และเล่าให้คนอ่านฟังถึงเรื่องราวในหนังหลายเรื่องที่เขาได้ดู ซึ่งสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเพศสภาพของชาวตุรกีในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20

โดยสรุปก็คือ หนังส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นเมโลดราม่าอันชวนรันทดท้อสะเทือนใจ หรือไม่ก็เป็นความบันเทิงแบบหลีกหนีจากชีวิตจริงอันชวนหดหู่ มีดนตรีและการร้องเพลงประกอบไปด้วย ทำนองเดียวกับหนังอินตะระเดียนั่นแหละค่ะ

หนังตุรกีที่ได้ดูทางเน็ตฟลิกซ์นี้ก็ทำท่าจะเป็นเมโลดราม่าตามสูตรสำเร็จอยู่เหมือนกัน ประมาณว่าชายหนุ่มผู้ยากจนแต่มีจิตใจงดงาม ได้เจอเด็กที่หนีความทารุณโหดร้ายในบ้านออกมาโดยไม่มีที่จะไป เขาจึงรับไว้ในอุปการะและได้พัฒนาความผูกพันกับเด็กขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ทุ่มเทให้

แต่ว่าหนังกลับมีจุดพลิกผันที่สำคัญและซ่อนบางสิ่งบางอย่างไว้อย่างมิดเม้น จนมาเผยเอาในช่วงสุดท้าย

การพลิกความคาดหวังหรือทำให้คนดูคาดเดาไม่ถูกนี้ เป็นไฮไลต์สำคัญที่ส่งให้เรื่องทั้งเรื่องลอยเด่นขึ้นมาจากความธรรมดาสามัญและดาษดื่นจากเมโลดราม่าทั่วไป

และยังส่งให้เรื่องทั้งหมดตรึงตราน่าประทับใจมากขึ้น

ขอเตือนเสียตอนนี้เลยนะคะว่าถ้าใครคิดจะดูหนังและหาดูได้ไม่ยากในระยะอันใกล้ ก็อย่าเพิ่งอ่านต่อ เผื่อจะจับแพะชนแกะเดาอะไรได้ จนกลายเป็นสปอยเลอร์ไป

ไว้ดูแล้วค่อยกลับมาอ่านก็ได้ค่ะว่ามีทัศนะตรงกันไม่ตรงกันอย่างไร

 

เรื่องของเรื่องคือ เมห์เมต (ชากาทาย อูลูซอย) เป็นเจ้าของกิจการเก็บขยะกระดาษและขวดขายเพื่อเอาไปรีไซเคิล เขาเก็บออมเงินไว้จำนวนมากพอควรเพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล เนื่องจากเขาเป็นโรคไตและอยู่ในคิวรอคอยการผ่าตัดเปลี่ยนไตอยู่ ระหว่างนั้นเขาก็ต้องฟอกเลือดอยู่เนืองๆ มิฉะนั้น โรคนี้ก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เมห์เมตดูแลเด็กกำพร้าจำนวนหนึ่งให้มีงานเก็บขยะทำและให้ค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม รวมทั้งเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี เด็กๆ จึงให้ความเคารพรักเขา รวมทั้งกอนซาเลซ (เอร์ซิน อาริชี) ซึ่งคอยเป็นธุระพาตัวเขาไปโรงพยาบาลในเวลาฉุกเฉิน

วันหนึ่งกอนซาเลซพลัดถิ่นไปเก็บขยะในเขตของแก๊งอื่น จนเกิดเรื่องท้าตีท้าต่อยและอาฆาตแค้นไล่ตามกันมา แต่ก็หนีได้พ้นอย่างฉิวเฉียด

คืนนั้นเองที่เมห์เมตได้พบเด็กชายผู้หวาดกลัวซ่อนมากับถุงขยะของกอนซาเลซ

ไม่ว่าจะถามไถ่อย่างไร เด็กน้อยก็ไม่ยอมพูดจา ต่อเมื่อเมห์เมตบอกว่าจะพาตัวไปหาตำรวจนั่นแหละ เด็กถึงได้กลัวลนลานจนเปิดปากพูด

เมห์เมตถามจนได้ความว่า เด็กชายวัยราวแปดขวบคนนั้นชื่อ อาลี (เอมีร์ อาลี โดกรุล) ถูกแม่เอามาใส่ไว้ในถุงขยะให้พ้นมือพ่อเลี้ยงที่ทุบตีทำทารุณกรรมอยู่ประจำ

หลักฐานปรากฏให้เห็นชัดเจนในรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวแขนขาของเด็กน้อย และความหวาดกลัวในแววตา

เมื่อสัญญากับอาลีว่าจะไม่พาไปส่งตำรวจเพื่อตามหาตัวพ่อ-แม่ เมห์เมตก็เลยรับหน้าที่นั้นเสียเอง และเนื่องจากแม่ก็คงไม่อยากได้ตัวอาลีกลับไปอยู่กับพ่อเลี้ยงใจร้ายอีก สิ่งที่เขาอยากทำก็คือบอกให้เธอรู้ว่าอาลีปลอดภัยแล้ว

อาลีบอกว่าถ้าเขาทำงานและเก็บเงินได้มากพอ เขาจะกลับไปรับแม่และช่วยเธอให้พ้นจากชีวิตที่ต้องอยู่กับสามีที่ชอบลงไม้ลงมือเป็นประจำ

เมห์เมตผูกพันกับเด็กน้อยในอุปการะมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาวิตกกังวลของคนรอบข้าง รวมทั้งกอนซาเลซและลุงทาห์ซินผู้มีอุปการคุณ ซึ่งดูเหมือนหวังดีแต่ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้

อย่างที่บอกไว้ คือ กุญแจดอกสำคัญที่ไขเรื่องราวทั้งหมดอยู่ในตอนสุดท้าย

ชากาทาย อูลูซอย เป็นพระเอกหนังชื่อดังของตุรกี เขาลงทุนทำตัวไม่หล่อต่างๆ นานาในบทบาทชวนประทับใจนี้… เนื้อตัวสกปรก ดมตัวเองได้กลิ่นเหม็นโฉ่ ใส่เสื้อผ้าซอมซ่อทรุดโทรม อ้วนลงพุง…แต่ถึงยังไงๆ ก็ยังลบความหล่อไปไม่หมด แค่เห็นเสี้ยวหน้าในตอนแรกก็รู้แล้วว่าเป็นหนุ่มหล่อลากดิน

ที่ต้องชมคือบทบาทที่ตีแตกกระจุยของหนุ่มคนยากผู้มีความซับซ้อนทางอารมณ์และใช้ชีวิตที่ถูกหลอกหลอนจากอดีต

นี่เป็นเรื่องราวของเมห์เมตคนเดียว ดังนั้น ตัวละครอื่นจึงเป็นแค่ฉากหลังหรือตัวประกอบที่ผ่านเข้ามาโดยไม่มีเรื่องราวของตัวเอง ต่อเมื่อมีเสียงเล่าและแฟลชแบ็กในตอนจบนั่นแหละ เราจึงได้เข้าใจถึงความเป็นมาเป็นไป

หนังสะท้อนภาพชีวิตของคนชั้นล่างในอิสตันบูลซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทันสมัย ซึ่งในอดีตคือกรุงคอนสแตนติโนเปิล อันเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกับเอเชีย

ขอแนะนำค่ะ