ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 มีนาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
PAPER LIVES
‘หนังดีจากตุรกี’
กำกับการแสดง
Can Ulkay
นำแสดง
Cagatay Ulusoy
Emir Ali Dogrul
Ersin Arici
Turgay Tanuiku
เท่าที่จำได้ หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังตุรกีเรื่องแรกที่เคยได้ดู แต่ผู้เขียนได้เคยรู้จักมักคุ้นกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของตุรกี ดาราหนังคนดังๆ ในช่วงทศวรรษ 1970 บรรยากาศการฉายหนังกลางแปลงซึ่งเป็นมหรสพที่นิยมกันในหมู่คนชั้นกลางไปถึงชั้นล่างในกรุงอิสตันบูล รวมทั้งเนื้อหาของหนังยอดนิยมหลายต่อหลายเรื่องในตุรกี
เหตุก็เพราะเคยแปลนวนิยายของออร์ฮัน ปามุก นักเขียนตุรกีที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในแวดวงนานาชาติและเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
นวนิยายชื่อ พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา (The Museum of Innocence) เล่าเรื่องของเคมาล หนุ่มรูปหล่อพ่อรวยที่มีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า แต่มาหลงรักปักใจอยู่กับฟูซุน สาวน้อยแสนสวยผู้ยากจน ผู้ฝันใฝ่จะได้เป็นดาราหนัง เพื่อถีบตัวขึ้นจากสถานะทางสังคมที่ต่ำต้อย ฟูซุนมีสามีเป็นนักสร้างหนังและหวังจะให้เคมาลลงทุนสร้างหนังให้เธอเล่น
เคมาลจึงตระเวนไปสำรวจตลาดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยไปดูหนังกลางแปลงที่ฉายตามย่านชุมชน และเล่าให้คนอ่านฟังถึงเรื่องราวในหนังหลายเรื่องที่เขาได้ดู ซึ่งสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเพศสภาพของชาวตุรกีในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20
โดยสรุปก็คือ หนังส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นเมโลดราม่าอันชวนรันทดท้อสะเทือนใจ หรือไม่ก็เป็นความบันเทิงแบบหลีกหนีจากชีวิตจริงอันชวนหดหู่ มีดนตรีและการร้องเพลงประกอบไปด้วย ทำนองเดียวกับหนังอินตะระเดียนั่นแหละค่ะ
หนังตุรกีที่ได้ดูทางเน็ตฟลิกซ์นี้ก็ทำท่าจะเป็นเมโลดราม่าตามสูตรสำเร็จอยู่เหมือนกัน ประมาณว่าชายหนุ่มผู้ยากจนแต่มีจิตใจงดงาม ได้เจอเด็กที่หนีความทารุณโหดร้ายในบ้านออกมาโดยไม่มีที่จะไป เขาจึงรับไว้ในอุปการะและได้พัฒนาความผูกพันกับเด็กขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ทุ่มเทให้
แต่ว่าหนังกลับมีจุดพลิกผันที่สำคัญและซ่อนบางสิ่งบางอย่างไว้อย่างมิดเม้น จนมาเผยเอาในช่วงสุดท้าย
การพลิกความคาดหวังหรือทำให้คนดูคาดเดาไม่ถูกนี้ เป็นไฮไลต์สำคัญที่ส่งให้เรื่องทั้งเรื่องลอยเด่นขึ้นมาจากความธรรมดาสามัญและดาษดื่นจากเมโลดราม่าทั่วไป
และยังส่งให้เรื่องทั้งหมดตรึงตราน่าประทับใจมากขึ้น
ขอเตือนเสียตอนนี้เลยนะคะว่าถ้าใครคิดจะดูหนังและหาดูได้ไม่ยากในระยะอันใกล้ ก็อย่าเพิ่งอ่านต่อ เผื่อจะจับแพะชนแกะเดาอะไรได้ จนกลายเป็นสปอยเลอร์ไป
ไว้ดูแล้วค่อยกลับมาอ่านก็ได้ค่ะว่ามีทัศนะตรงกันไม่ตรงกันอย่างไร
เรื่องของเรื่องคือ เมห์เมต (ชากาทาย อูลูซอย) เป็นเจ้าของกิจการเก็บขยะกระดาษและขวดขายเพื่อเอาไปรีไซเคิล เขาเก็บออมเงินไว้จำนวนมากพอควรเพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล เนื่องจากเขาเป็นโรคไตและอยู่ในคิวรอคอยการผ่าตัดเปลี่ยนไตอยู่ ระหว่างนั้นเขาก็ต้องฟอกเลือดอยู่เนืองๆ มิฉะนั้น โรคนี้ก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เมห์เมตดูแลเด็กกำพร้าจำนวนหนึ่งให้มีงานเก็บขยะทำและให้ค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม รวมทั้งเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี เด็กๆ จึงให้ความเคารพรักเขา รวมทั้งกอนซาเลซ (เอร์ซิน อาริชี) ซึ่งคอยเป็นธุระพาตัวเขาไปโรงพยาบาลในเวลาฉุกเฉิน
วันหนึ่งกอนซาเลซพลัดถิ่นไปเก็บขยะในเขตของแก๊งอื่น จนเกิดเรื่องท้าตีท้าต่อยและอาฆาตแค้นไล่ตามกันมา แต่ก็หนีได้พ้นอย่างฉิวเฉียด
คืนนั้นเองที่เมห์เมตได้พบเด็กชายผู้หวาดกลัวซ่อนมากับถุงขยะของกอนซาเลซ
ไม่ว่าจะถามไถ่อย่างไร เด็กน้อยก็ไม่ยอมพูดจา ต่อเมื่อเมห์เมตบอกว่าจะพาตัวไปหาตำรวจนั่นแหละ เด็กถึงได้กลัวลนลานจนเปิดปากพูด
เมห์เมตถามจนได้ความว่า เด็กชายวัยราวแปดขวบคนนั้นชื่อ อาลี (เอมีร์ อาลี โดกรุล) ถูกแม่เอามาใส่ไว้ในถุงขยะให้พ้นมือพ่อเลี้ยงที่ทุบตีทำทารุณกรรมอยู่ประจำ
หลักฐานปรากฏให้เห็นชัดเจนในรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวแขนขาของเด็กน้อย และความหวาดกลัวในแววตา
เมื่อสัญญากับอาลีว่าจะไม่พาไปส่งตำรวจเพื่อตามหาตัวพ่อ-แม่ เมห์เมตก็เลยรับหน้าที่นั้นเสียเอง และเนื่องจากแม่ก็คงไม่อยากได้ตัวอาลีกลับไปอยู่กับพ่อเลี้ยงใจร้ายอีก สิ่งที่เขาอยากทำก็คือบอกให้เธอรู้ว่าอาลีปลอดภัยแล้ว
อาลีบอกว่าถ้าเขาทำงานและเก็บเงินได้มากพอ เขาจะกลับไปรับแม่และช่วยเธอให้พ้นจากชีวิตที่ต้องอยู่กับสามีที่ชอบลงไม้ลงมือเป็นประจำ
เมห์เมตผูกพันกับเด็กน้อยในอุปการะมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาวิตกกังวลของคนรอบข้าง รวมทั้งกอนซาเลซและลุงทาห์ซินผู้มีอุปการคุณ ซึ่งดูเหมือนหวังดีแต่ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้
อย่างที่บอกไว้ คือ กุญแจดอกสำคัญที่ไขเรื่องราวทั้งหมดอยู่ในตอนสุดท้าย
ชากาทาย อูลูซอย เป็นพระเอกหนังชื่อดังของตุรกี เขาลงทุนทำตัวไม่หล่อต่างๆ นานาในบทบาทชวนประทับใจนี้… เนื้อตัวสกปรก ดมตัวเองได้กลิ่นเหม็นโฉ่ ใส่เสื้อผ้าซอมซ่อทรุดโทรม อ้วนลงพุง…แต่ถึงยังไงๆ ก็ยังลบความหล่อไปไม่หมด แค่เห็นเสี้ยวหน้าในตอนแรกก็รู้แล้วว่าเป็นหนุ่มหล่อลากดิน
ที่ต้องชมคือบทบาทที่ตีแตกกระจุยของหนุ่มคนยากผู้มีความซับซ้อนทางอารมณ์และใช้ชีวิตที่ถูกหลอกหลอนจากอดีต
นี่เป็นเรื่องราวของเมห์เมตคนเดียว ดังนั้น ตัวละครอื่นจึงเป็นแค่ฉากหลังหรือตัวประกอบที่ผ่านเข้ามาโดยไม่มีเรื่องราวของตัวเอง ต่อเมื่อมีเสียงเล่าและแฟลชแบ็กในตอนจบนั่นแหละ เราจึงได้เข้าใจถึงความเป็นมาเป็นไป
หนังสะท้อนภาพชีวิตของคนชั้นล่างในอิสตันบูลซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทันสมัย ซึ่งในอดีตคือกรุงคอนสแตนติโนเปิล อันเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกับเอเชีย
ขอแนะนำค่ะ