“ซิซซ์เล่อร์” ลุยตลาด “แพลนต์เบส” เต็มรูปแบบ ปั้นเมนูเสิร์ฟกลุ่มไดน์อินและเดลิเวอรี่ รับการเติบโตตลาดในไทยแตะ 4.5 หมื่นล้านในอีก 2 ปี  

นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด และนายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์)

●        “ซิซซ์เล่อร์” เสิร์ฟความอร่อย 2 เมนูแพลนต์เบสทั้งสไตล์ไทยและฝรั่งเอาใจคนรักสุขภาพ ได้แก่ “ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว” เมนูสไตล์ไทย ๆ ที่มาพร้อมรสชาติเข้มข้นแบบฉบับอีสานแท้ ในราคา 299 บาท และ“สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา” เมนูสเต๊กที่รังสรรค์ขึ้นในสไตล์เม็กซิกัน ในราคา 399 บาท ที่ร้านซิซซ์เล่อร์และการสั่งผ่านเดลิเวอรี่ ทั้ง 30 สาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

กรุงเทพฯ 8 ตุลาคม 2564 – ซิซซ์เล่อร์ เดินหน้าตลาด “แพลนต์เบส” (PlantBased Food) เต็มรูปแบบ โดยกำหนดเป็นเมนูประจำ ครอบคลุมทั้งการนั่งรับประทานที่ร้านและสั่งผ่านเดลิเวอรี่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานมังสวิรัติ กลุ่มผู้ทานอาหารวีแกน กลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นเป็นครั้งคราว หรือ Flexitarian หรือแม้แต่ผู้บริโภคทั่วไป โดยกำหนดราคาเฉลี่ยเริ่มต้นตั้งแต่ 99399 บาท พร้อมตั้งเป้าในปี 2565 เมนูแพลนต์เบสจะสามารถสร้างรายได้เติบโต 30% เพื่อรับการเติบโตของตลาดแพลนต์เบส หรืออาหารที่ให้โปรตีนทำจากพืชในประเทศไทยปี 2567 ที่คาดการ์ณว่าจะมีมูลค่าถึง 4.5 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว 2 เมนูแพลนต์เบสใหม่ ได้แก่ “ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว” และ“สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา” ที่พร้อมให้ลูกค้าได้มาลิ้มลองได้ที่ร้านซิซซ์เล่อร์และเดลิเวอรี่ทั้30 สาขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ซิซซ์เล่อร์โทรศัพท์ 023656934 รวมถึงเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/SizzlerThai หรือ www.sizzler.co.th

                นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป  จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งทำให้พฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องด้วยผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้นเป็นพิเศษทำให้อาหาร “แพลนต์เบส” (PlantBased Food) หรือนวัตกรรมอาหารที่ให้โปรตีนทำจากพืช จึงเป็นอีกหนึ่งประเภทอาหารที่ผู้บริโภคหันมาเลือกรับประทาน จะเห็นได้จากการเติบโตของอาหารแพลนต์เบสทั่วโลกเมื่อปี 2563 มีมูลค่าราว 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าราว 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: Plant Based Meat Market Outlook 2025) ในขณะที่ประเทศไทยช่วง 23 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของผู้บริโภคอาหารแพลนต์เบสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยปี 2562 ตลาดแพลนต์เบสมีมูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท และยังคาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 4.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% (อ้างอิง: Krungthai COMPASS)

                โดย ซิซซ์เล่อร์ ในฐานะผู้นำร้านอาหารที่นำเสนอเมนูแพลนเบสเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคมาตั้งแต่ปลายปี 2562 โดยปัจจุบันจะนำเมนูดังกล่าวบรรจุเป็นหนึ่งในเมนูประจำเพื่อที่จะมาตอบโจทย์ความอิ่มอร่อยทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานมังสวิรัติ กลุ่มผู้ทานอาหารวีแกน หรือกลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นเป็นครั้งคราว หรือ Flexitarian หรือแม้แต่ผู้บริโภคทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงอาหารแพลนต์เบสได้หลากหลายสไตล์อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นตลอดทั้งปี โดยเมนูจะราคาเฉลี่ยเริ่มต้นตั้งแต่ 99 399 บาท ควบคู่ไปกับเอกลักษณ์ประจำร้านของซิซซ์เล่อร์คือสลัดบาร์ที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทั้งการนั่งรับประทานที่ร้านและสั่งผ่านเดลิเวอรี่ เพื่อตอกย้ำความเป็นหนึ่งในด้านการพัฒนาเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าในปี 2565 เมนูแพลนต์เบสจะสามารถสร้างรายได้เติบโตราว 30%

                ด้าน นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า ซิซซ์เล่อร์ ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตแพลนต์เบสชั้นนำของเอเชียได้แก่ บียอนด์ มีท และกรีนมันเดย์ ด้วยการนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพ และรังสรรค์ 2 เมนูแพลนเบสต์ใหม่ทำจากพืช 100% ที่ผ่านกรรมวิธีการปรุงแต่งจากผู้เชี่ยวชาญของซิซซ์เล่อร์ทำให้มีรสชาติโดดเด่น ประกอบไปด้วย

●     เมนู “ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว” (OmniMeat Laab Tod with Sticky Rice)  – เมนูลาบทอดจากโปรตีนพืชถูกนำมารังสรรค์ในสไตล์ไทย ๆ พร้อมรสชาติเข้มข้นแบบฉบับอีสานแท้ ทานคู่ข้าวเหนียวร้อน ๆ เหมาะสำหรับสายสุขภาพที่ต้องการความอิ่มท้องจากแหล่งโปรตีนธรรมชาติแต่ยังคงไว้ซึ่งความจัดจ้านและความแซ่บในราคา 299 บาท นอกจากนี้ ออมนิมีท ลาบทอด ยังเสิร์ฟเป็นเมนูทานเล่นที่ลูกค้าสามารถสั่งแยกมารับประทานระหว่างรออาหารจานหลักเมื่อรับประทานที่ร้านซิซซ์เล่อร์ได้ในราคาเพียง 99 บาท ตลอดจนยังสามารถสั่งเดลิเวอรี่ไปลิ้มลองได้ถึงที่อีกด้วย

●     เมนู “สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา” (Beyond Steak with Guacamole & Salsa) – สเต๊กเนื้อที่ไร้เนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม ถูกนำไปย่างร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมด้วยบีทรูทที่ผสมกับน้ำส้มจึงมอบรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว นอกจากนี้ยังราดด้วยกัวคาโมเล่ที่ทำจากอะโวคาโดบด และซัลซา รวมถึงเผือกทอดด้านบนสุดเพิ่มความกรุบกรอบ หากใครที่ชื่นชอบทานอาหารสไตล์เม็กซิกันต้องไม่พลาด ในราคา 399 บาท 

ทั้งนี้ 2 เมนู “ออมนิมีท ลาบทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว” และ “สเต๊ก บียอร์น กัวคาโมเล่ และซัลซา” พร้อมให้เหล่าคนรักสุขภาพได้มาลิ้มลองอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แถมดีต่อใจ และยังดีต่อโลก ณ ร้านซิซซ์เล่อร์และการสั่งผ่านเดลิเวอรี่ทั้ง 30 สาขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ซิซซ์เล่อร์โทรศัพท์ 023656934 รวมถึงเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/SizzlerThai หรือ www.sizzler.co.th

###

#ซิซซ์เล่อร์ #Sizzler #แพลนต์เบส #plantbased #JCCOTH

เกี่ยวกับ ซิซซ์เล่อร์

ซิซซ์เล่อร์ เป็นร้านอาหารประเภทสเต๊ก ซีฟู้ด และสลัด สไตล์ตะวันตก มีสาขาอยู่ทั่วโลก โดยซิซซ์เล่อร์ ประเทศไทยได้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์จาก บริษัท คอลลินส์ ฟู้ด เมืองแอนเนอร์เลย์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดย บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้นำ “ซิซซ์เล่อร์” เข้ามาในประเทศไทยและเปิดสาขาแรกที่อาคารฟิฟฟ์ตี้ฟิฟฟ์ พลาซ่า (Fifty Fifth Plaza) สุขุมวิท 55 (ปิดบริการแล้ว) ในปี 2535 และได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้น ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มี 54 สาขา มีบริการช่องทางเดลิเวอรี่ และมีแบรนด์น้องใหม่สไตล์ Grab & Go คือ ซิซซ์เล่อร์ทูโก 5 สาขา โดยทุกสาขาของซิซซ์เล่อร์ในประเทศไทย ดำเนินงานตามหลักการของซิซซ์เล่อร์ทั่วโลกที่มีมาตรฐานเดียวกัน โดยมีอาหารหลายชนิดให้เลือกทั้งสเต๊กเนื้อ ไก่ หมู อาหารทะเลทั้งทอดและย่าง รวมทั้งสลัดบาร์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีทั้งผักสด ๆ ซุป และพาสต้า ให้เลือกมากมาย และสามารถเติมได้ไม่จำกัด พร้อมทั้งของหวานและผลไม้ครบครัน