เผยแพร่ |
---|
หากประเมินจาก “บรรยากาศ” และ “ผลสะเทือน” ในการใช้วิทยา ยุทธ์จาก “พลังดูด” 2 ระลอกที่ผ่านมา
1 นายสกลธี ภัททิยกุล เป็น รองผู้ว่าฯกทม.
1 นายสนธยา คุณปลื้ม เป็น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล คุณปลืม เป็น กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ไม่เพียงแต่ “พรรคคสช.”จะสรุปได้โดยพื้นฐาน
หากประการสำคัญเป็นอย่างมาก บุคคลอันเป็น”เป้าหมาย”ในการดูดระลอกต่อไปคงต้องคิดหนัก
ไม่ว่าจะจะเป็น”ซุ้มนครปฐม” ไม่ว่าจะเป็น”ซุ้มสุโขทัย”
ต้องยอมรับว่า ทั้ง”ซุ้มสุโขทัย” และ “ซุ้มนครปฐม” หรือแม้กระทั่ง
“ซุ้มบ้านริมน้ำ” ล้วนเป็นนักการเมืองประเภทที่โบราณสรุปว่า
“คอทั่ง สันหลังเหล็ก”
คือ ผ่านกระบวน “ดูด” มาแล้วอย่างโชกโชน ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “ซุ้มชลบุรี”
การดูดจึงย่อมมิใช่ในแบบ”ไดรโว่”พื้นๆ
ตรงกันข้าม ทาง”พรรคคสช.”จำเป็นต้องนำเอานวัตกรรมในแบบ “รถดูดส้วม”เข้ามาจึงจะเหมาะสมกับสภาพ “แตกลายงา”ทางการเมือง
แม้ไม่สามารถ”โยง”ยาวไปถึงยุค จอมพลถนอม กิตติขจร หรือพรรคสหประชาไทยได้
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีกลิ่นอาย”สามัคคีธรรม”โชยกรุ่น
ที่ไม่ควรมองข้ามและหลงลืมอย่างเด็ดขาดยังเป็นพาดหัวตัวไม้ของหนังสือพิมพ์ยักษ์
นั่นก็คือ คำว่า “ตี๋กร่าง”
เป็นบทบาทของ”ตี๋กร่าง”อันได้มาระหว่างเข้าดำรงตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย
ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร
ผลก็คือ “ตี๋”ไม่สามารถ “กร่าง”ได้ยาวนาน เพราะเพียง 47 วัน พล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็ต้องยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นั่นคือ บทเรียนจากเดือนพฤษภาคม 2535
บทเรียนใน “อดีต” มีคุณค่าและความหมายเสมอหากรู้จัก”ศึกษา”และสรุป
เป็นบทเรียนจาก”ประวัติศาสตร์” การเมือง