เผยแพร่ |
---|
คลิปเสียงเหน่อๆที่เริ่มด้วยคำถามจะเลือกพรรคใด ตามมาด้วยคำตอบที่ว่าจะเลือกพรรคทักษิณ และเมื่อถามต่อว่าพรรคชื่ออะไร คำตอบคือก้าวไกล
ดำเนินไปอย่างย้อนแย้งขัดกันเองอย่างเด่นชัด เหมือนจะจริงแต่ก็ยากที่จะยอมรับได้
ดำรงอยู่เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ”การเมือง”
ฟังตอนแรกแฟนานุแฟนพรรคเพื่อไทยอาจยิ้มที่มุมปากด้วยความพีงใจ แต่ฟังท่อนหลังก็บังเกิดความหงุดหงิด มิอาจยอมรับได้อย่างง่ายดาย
ขณะเดียวกันหากมองจากแฟนานุแฟนพรรคก้าวไกลฟังตอนแรกอาจหงุดหงิด แต่เมื่อฟังตอนหลังกลับเปิดรอยยิ้มด้วยความพึงใจออกมา
ตกลงเป้าหมายของคลิปเป็นอะไรกันแน่ ต้องการเชียร์พรรค เพื่อไทย หรือต้องการเชียร์พรรคก้าวไกล
หากประเมินผ่านน้ำเสียงเหน่อๆในลักษณะชาวบ้านแน่นอน
ย่อมสะท้อนชื่อของ”ทักษิณ”ออกมาอย่างเด่นชัด แต่เมื่อได้ยินว่าเป็น”ก้าวไกล”ชัดเจนก็ยิ่งแคลงคลางกังขา
นี่คือคลิปที่ก่อให้เกิด มิอาจหัวร่อ มิอาจร่ำไห้
หากมองโลกในแง่ดีปรากฏการณ์คลิปเสียงที่ย้อนแย้งในตัวเองใน ลักษณะนี้ คือ เงาสะท้อนจากความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในทางการเมืองของสังคมไทย
อ่านได้จากผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 อ่านได้จากความเป็นจริงนับแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา
เพียงแต่แทนที่จะเป็น”ก้าวไกล” หากแต่เป็น”เพื่อไทย”
ผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 สะท้อนเจตจำนง ทางการเมืองของประชาชน นั่นก็คือ เทให้พรรคก้าวไกลกว่า 14 ล้านเสียง เทให้พรรคเพื่อไทยกว่า 10 ล้านเสียง
ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้เพียงกว่า 4 ล้านเสียง ขณะที่พรรคไทยภักดีไม่ได้รับเลือกเลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าระบบ เขต ไม่ว่าระบบบัญชีรายชื่อ
เป็นเจตจำนงต้องการให้พรรคก้าวไกลร่วมกับพรรคเพื่อไทย แต่ผลจากสถานการณ์เดือนสิงหาคม 2566 กลับแปรเปลี่ยน
สัญญะอันดำรงอยู่ภายใน”คลิป”คือสถานะที่เป็นจริงที่ย้อนแย้งในทางการเมืองที่ดำเนินไปในลักษณะพลิกผันเหมือนจะแยกไม่ออกระหว่าง”ทักษิณ”กะ”ก้าวไกล”
แต่ภายในการแยกไม่ออกนั้นยืนยันสถานะแห่งอำนาจ บารมีของ”ทักษิณ”อย่างชัดเจน ยืนยันถึงสถานะและการเกิดขึ้นของ”ก้าวไกล”อย่างมิอาจปฎิเสธได้
ทุกอย่างดำรงอยู่และดำเนินไปเหมือนกับจะเป็นอารมณ์ขัน แต่ก็เป็นอารมณ์อันเป็น”ตลกร้าย”ในทางการเมือง