หากคำนึงถึงความพร้อมของพรรคก้าวไกล หากคำนึงถึงความรัด กุมของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ภาพที่ปรากฏตลอดทั้งวันที่ 24 มกราคม มิได้เหนือความคาดหมาย

ไม่ว่าเมื่อศาลอ่านคำวินิจฉัยว่า”ไม่พ้นจากสมาชิกภาพสส.” ไม่ว่าเมื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินออกจากศาล

ภาพที่เคยเกิดในห้วง”ก่อน”การเลือกตั้ง ภาพที่เคยเกิดในห้วง”หลัง”การเลือกตั้งของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้หวนกลับมาอย่างคึกคัก หนักแน่นยิ่งกว่าเก่า

ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบไม่เพียงแต่ต่อภาพของคนอื่นใน”อดีต” หากแม้กระทั่งต่อภาพของคนอื่นใน”ปัจจุบัน”ก็ไม่เว้น

ลองติดตามเทรนด์ภาพข่าวยอดนิยมในทวิตเตอร์ก็จะเห็นเด่นชัดผ่านจำนวนคนติดตาม เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 24 มก ราคม #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ คือ 121K

แต่เมื่อสำรวจอีกครั้งในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 25 มกราคม #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ ก็ทะยานไปแตะ 229K

โอกาสและความเป็นไปได้ที่จะถึง”เรือนล้าน”อยู่อีกไม่ไกล

สภาพความเป็นจริงที่เห็นเช่นนี้เกิดขึ้นในท่ามกลางความ พยายามในการขวางต้านอย่างเต็มกำลัง

 

เครื่องกีดขวางอย่างแรกสุด คือการด้อยค่าผ่าน”ฉายา” ไม่ว่าจะเป็นการเสนอวลีที่ว่า”นายกรถแห่” ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความคม แหลมจนถึงขั้น”นายกว่าว”

อาศัยความล้มเหลวจากความไม่สามารถในการระดมพลังในการขานชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี

อาศัยจากสภาพความเป็นจริงที่เห็นผ่านสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นั่นก็คือ การเกิดขึ้นแห่งพันธมิตรในแนว ร่วมเพื่อขจัดพรรคก้าวไกลออกไปจากสมการทางการเมือง

กระนั้น พรรคก้าวไกลและ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เผชิญประสบกับมรสุมแต่ละลูกได้อย่างเยือกเย็น ไม่ว่าจะเป็นการตีความในเรื่อง”นายกรถแห่” ในเรื่อง”นายกว่าว”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยิ่งยืนอยู่บนรถแห่อย่างต่อเนื่อง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถึงกับยืนถ่ายรูประกบกับว่าว

“กระแส”ที่ได้จึงมิใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่มีพื้นฐานรองรับ

 

พื้นฐานในที่นี้มิได้อยู่ที่ความจัดเจนของพรรคก้าวไกลที่สืบทอดและพัฒนาในลักษณะต่อยอดจากพรรคอนาคตใหม่

หากแต่ยังอยู่ที่ตัว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อย่างสำคัญ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงเก็บรับคะแนนสะสมจาก นายธนา ธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาได้ครบถ้วน และเติมเสน่ห์ที่ตัวเองมีอย่างพร้อมมูลเข้าไปได้อย่างกลมกลืน

ทั้งหมดนี้ดำรงอยู่อย่างมีการวางแผน จัดระบบด้วยวิธีวิทยา อันทันสมัยและเหมาะสมทางด้านการตลาด การเมือง